Best Thai History

Amps

วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2567

ตะกรุดเรือรบวังหน้า พ.ศ.๒๓๓๖ กับ ศึก ตะนาวศรี มะริด

 "ตะกรุดเรือรบวังหน้า" 

การรบพม่าใน ปี พ.ศ.๒๓๓๖ 

สมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (บุญมา)
ได้ยกกำลังกองทัพวังหน้า ลงไป ข้ามแดนที่ด่านสิงขร 
เพื่อไปเตรียมต่อเรือรบ 
เรือรบครั้งนั้น "มีตะกุดทั้งหน้าทั้งท้าย" 
ครั้นต่อเรือเสร็จ พายเรือขึ้นไปตามลำแม่น้ำ
จะไปสมทบทัพหลวงที่ "เมืองทวาย"
ในเวลาเดียวกันนั้น 
ทัพพม่าจากอังวะ ยกลงมาจะตีเอาเมืองทวายคืน
ชาวเมืองทวาย ถูกยุยงให้หวาดกลัวว่า 
จะถูกกวาดต้อนไปกรุงเทพอีก
จึงกลับใจเป็นกบถ เข้าด้วยกับพม่า
รวมกันกับทัพพม่าที่ยกลงมาจากอังวะ รบไล่ตามตี 
เจ้าพระยามหาเสนา เจ้าพระยารัตนาพิพิธ พระยายมราช 
ผู้รักษาเมืองทวาย  
จนถอยร่นมาถึงทัพหน้าฝ่ายทัพหลวง (วังหลวง)
"พระยาอภัยรณฤทธิ์" ทัพหน้าของทัพหลวง 
ไม่ยอมให้พระยาทั้ง ๓ เข้าไปสมทบในค่าย
ให้ตั้งรับอยู่นอกค่าย
พม่าตามกองทัพมาถึงเข้ารบรุกบุกบันทัพไทยรับมิหยุด 
เพราะมิได้มีค่ายมั่นรักษาตัว 
ก็แตกพ่ายกระจายกันไป 
เสียเจ้าพระยามหาเสนาในที่รบศพก็มิได้ 
ค่าย "พระยาอภัยรณฤทธิ์"
พม่าก็เข้าตีเอาได้ เสียไพร่พลครั้งนั้นมาก
รัชกาลที่ ๑ ทรงพระพิโรธพระยาอภัยรณฤทธิ์ มาก ดำรัสว่า 
"เสนาบดีผู้ใหญ่ทั้ง ๓ นายมาถึงแล้ว 
ควรจะให้เข้าพักอยู่ในค่าย 
นี่มันถือกฎหมายอะไรของมัน
ไม่ให้เสนาบดีผู้ใหญ่เข้าอยู่ในค่าย 
จนเสียแม่ทัพนายกองและไพร่พลเป็นอันมาก 
พระยาอภัยรณฤทธิ์ รับสารภาพผิด 
จึงให้ลงพระราชอาชญา "ประหารชีวิต"
ฝ่ายทัพเรือวังหน้า ยกไปถึง "เมืองมะริด"แล้ว 
ได้ทราบเหตุการณ์ที่เมืองทวายแล้ว 
จึงรายงานไปกราบทูล
สมเด็จพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวรฯ ที่ เมืองชุมพร
ทรงเสียพระทัยนัก รับสั่งว่า
"การจะสำเร็จอยู่แล้วกลับไม่สำเร็จไปได้"
จึงสั่งให้ขึ้นไปบอกนายทัพนายกองให้ล่าทัพจาก เมืองมะริด 
พอกองทัพพม่ายกลงมาถึงเมืองมะริด 
กองทัพไทยจัดการจะล่าทัพเรือ 
พม่าก็เข้าตีกองทัพได้รบกัน 
กองเรือวังหน้าล่าถอย "เอาท้ายเรือลงมา ยิงปืนหน้าเรือ"
รับพม่าแข็งแรง
พม่าก็ยิงต่างคนต่างยิงกัน ถึงฝั่งจึงทิ้งเรือเสียขึ้นบก 
นายทัพนายกองไม่มีผู้ใดเป็นอันตราย 
เสียแต่เรือรบและปืนบาเหรี่ยมสำหรับเรือ


เส้นทางเดินทัพวังหน้า จากกรุงเทพ-ด่านสิงขร-ตะนาวศรี - มะริด
พ.ศ.๒๓๓๖



ตะกรุดโทนวังหน้า บรรจุกริ่ง (เหล็กไหล) ยาว 4.7 นิ้ว กรุงเทพฯ



ตะกรุดโทนวัดพระแก้ว (วังหลวง)




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น