Best Thai History

Amps

วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทนำ ตามหา พระบรมอัฐิ ของ พระมหาเถระเจ้าอุทุมพร โดย ม.ล. ชัยนิมิตร นวรัตน

 บทนำ ตามหา พระบรมอัฐิ ของ พระมหาเถระเจ้าอุทุมพร

เครดิต ภาพ บรรยาย โดย ม.ล. ชัยนิมิตร นวรัตน



หลังจาก ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๖ อันเป็นวันที่คณะทำงานไทยส่งมอบพระโกศทรงบาตรประดับแก้วอังวะสีมรกตที่พบในพระสถูปองค์สำคัญ  บรรจุลงหีบเหล็กจำนวนสองใบ ให้แก่ศาลาว่าการรัฐมัณฑะเลย์ (MCDC) เพื่อเก็บรักษาไว้ โดยคล้องกุญแจ ๒ ชุด ไทยและพม่าเก็บรักษาฝ่ายละชุด หากจะเปิดอีกเมื่อใดต้องนำกุญแจทั้งสองชุดมาพร้อมกัน จึงจะกระทำการเปิดได้ 
เมื่อผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีพม่าเชื่อตามหลักฐานแวดล้อม(Circumstance Evidence) โดยปราศจากข้อสงสัยว่าพระอัฐิธาตุที่พบ คือพระบรมอัฐิของพระมหาเถระเจ้าอุทุมพรแล้ว  คณะทำงานไทยจึงได้พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเร่งบูรณะสถานที่แห่งนั้นให้เป็นอนุสรณสถานของพระองค์ เพื่อจะได้นำพระบรมอัฐิลงบรรจุคืนยังพระสถูปองค์เดิมโดยเร็วที่สุด  แต่ไม่ว่าจะทำเรื่องขออนุญาตไปคราวใด ก็ให้มีเหตุขัดข้องทุกครั้ง ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากสภาวะทางการเมืองของสองประเทศที่เปลี่ยนรัฐบาล พม่า ๓ ครั้ง ไทย ๒ ครั้ง ทุกครั้งก็จะมีผลกระทบต่อโครงการเสมอมา
จนกระทั่งเวลาผ่านไป ๑๐ ปี ทางกรมโบราณคดีพม่าได้ทำหนังสือแจ้งอนุญาตให้ไปรับหีบเหล็กที่ฝากไว้ ไปดำเนินการตามความประสงค์ได้ในวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๖ พอดิบพอดี คุณวิจิตร ชินาลัยหัวหน้าคณะฝ่ายไทยได้กล่าวกับทุกคนก่อนออกเดินทางไปตามนัดว่า งานครั้งนี้ต้องสำเร็จแน่ จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เพราะจะตรงกับนักษัตรที่ ๘  (ราชาฤกษ์) ต่อเนื่องติดตามด้วยนักษัตรที่ ๙ (สมโณฤกษ์) อันเป็นมหามงคลอย่างยิ่ง
พิธีกรรมครั้งนี้ทางรัฐบาลพม่าได้ขอให้คณะทำงานร่วมฝ่ายไทยและพม่ากระทำกันเองอย่างเรียบง่าย เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์แทรกซ้อนอันไม่พึงประสงค์ เจ้าหน้าที่กรมโบราณคดีจะไปในฐานะผู้สังเกตการณ์เท่านั้น โดยมีกองกำลังทหารรักษาความปลอดภัยกระจายอยู่นอกบริเวณ ซึ่งทางเราก็ได้ปฏิบัติตาม จนทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยดีตามฤกษ์
ก่อนกระทำพิธีมหาบังสุกุล คณะทำงานและคนไทยที่ทราบข่าวและมาร่วมงานได้พร้อมกันเปล่งวาจาดังนี้
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า…(ทุกคนออกนามตนเอง)…ขอกราบบังคมทูลขมาโทษต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในการที่ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิออกจากพระสถูป เพื่อกระทำการบูรณะปฏิสังขรณ์สถานที่แห่งนี้ ให้สมเป็นอนุสรณ์สถานของพระองค์ ไปตราบชั่วกาลปวสาน 
ณ บัดนี้เป็นมงคลวโรกาส ที่จะอัญเชิญพระบรมอัฐิกลับสู่พระสถูปดังเดิม หากว่า การกระทำทั้งปวงของข้าพระพุทธเจ้า ได้เกิดจากความสุจริตใจเป็นที่ตั้งแล้ว ขอให้ข้าพระพุทธเจ้า มีความสุขความเจริญสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม 
ขอเดชะ
.
บทบาทและหน้าที่ของคณะทำงานไทย ที่มุ่งมาตรปรารถนาจะรักษาพระสถูปของพระมหาเถระเจ้าอุทุมพร ไม่ให้ถูกไถทิ้งทำลายเพื่อหลีกทางให้โครงการก่อสร้างตึกแถวเพื่อการท่องเที่ยวของเมืองอมรปุระ จนกลายมาเป็นอนุสรณ์สถานที่มีกฎหมายคุ้มครองไม่ให้ถูกทำลายได้อีกต่อไปนั้น  ถือว่าบรรลุความสำเร็จแล้ว สามารถยุติบทบาทได้


สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อัมพโร) ทรงเมตตา อธิษฐานจิตสู่บาตรมุกที่จะอัญเชิญไปบรรจุพระบรมอัฐิพระมหาเถระเจ้าอุทุมพรแทนพระโกศทรงบาตรเดิม ที่ต้องส่งมอบให้กรมโบราณคดีพม่า ในฐานะที่เป็นโบราณวัตถุของชาติตามกฎหมาย
และในวโรกาสเดียวกัน ทรงประทานผ้าไตรจีวร ๑ สำรับ สำหรับบังสุกุลพระบรมอัฐิ และจีวร ๑ ผืนเพื่อห่อพระบรมอัฐิก่อนบรรจุลงพระโกศบาตรมุกด้วย



วันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๖ ณ ศาลาว่าการรัฐมัณฑะเลย์ (MCDC) และภายในห้องรับรองที่จะทำการส่งมอบ



พิธีมอบ และกระทำการเปิดหีบต่อหน้าสักขี



บริเวณอนุสรณ์สถาน ณ ลินซินกอง เช้าวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๖



คุณวิจิตร ชินาลัย หัวหน้าคณะฝ่ายไทย และคุณมิกกี้ ฮาร์ท หัวหน้าคณะฝ่ายพม่า ได้ร่วมกันนำพระบรมอัฐิในภาชนะที่แยกไว้เป็นส่วนๆมารวมกันใหม่บนจีวรที่สมเด็จพระสังฆราชอัมพรประทานมา ก่อนจะมัดด้วยสายรัดประคตแล้วบรรจุลงพระโกศบาตรมุก



เวลา ๑๕.๓๐ น. พระสงฆ์พม่าเจริญพระพุทธมนต์ อุทิศถวายพระราชกุศล



เสร็จพิธีกรรมฝ่ายพม่าแล้ว อัญเชิญพระโกศไปยังหน้าพระสถูป คุณวิจิตร ชินาลัย หัวหน้าคณะฝ่ายไทย ทอดผ้าบังสุกุลประทานจากสมเด็จพระสังฆราชอัมพรบนพระโกศพระบรมอัฐิ แล้วนิมนต์พระสงฆ์ไทยขึ้นพิจารณาผ้าบังสุกุน



คณะคนไทยพร้อมกันเปล่งวาจากราบบังคมทูลขอขมา และขอพระราชทานพร เสร็จแล้วทั้งสองฝ่ายช่วยกันนำพระโกศพระบรมอัฐิลงสู่พระลองนอก ทำด้วยสเตนเลสทนต่อความชื้น ก่อนส่งต่อให้พนักงานรับลงไปบรรจุในช่องกรุที่ตระเตรียมไว้อย่างดีภายในพระสถูป



คณะทำงานฝ่ายไทยทยอยกันร่วมเทคอนกรีตพอเป็นพิธีลงสู่กรุภายในพระสถูป ตามด้วยผู้ที่มาร่วมงานทั้งชาวไทยและพม่า



พระสงฆ์ไทยกล่าวอนุโมทนารัมคาถา ก่อนเสร็จสิ้นพิธีกรรม



พระสถูปที่จะดำเนินการอนุรักษ์ต่อตามแบบของกรมโบราณคดีพม่า ส่วนคณะทำงานไทยได้หมดหน้าที่ลงแล้วในวันนั้น และประกาศที่ยุติบทบาทในพม่าลงแต่เพียงเท่านี้



ภาพถ่ายก่อนแยกย้ายกันกลับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น