Best Thai History

Amps

วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ลูกไทยชาวกรุงเก่า กลายเป็นปลัดทัพพม่า ยกมาตีเชียงใหม่

 ๓๕ ปี เด็ก บางกะจะ 

กลายเป็นปลัดทัพพม่า ยกมาตีเชียงใหม่

 พ.ศ.๒๓๔๕ ปีที่ ๒๑ ในรัชกาล ที่ ๑
พระยาเชียงใหม่ กาวิละ 
มีหนังสือบอกลงมาว่า 
"พม่ายกทัพจะมาตีเมืองเชียงใหม่"
ขอพระราชทานทัพกรุงขึ้นไปช่วยเมืองเชียงใหม่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑ 
และพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวรฯ (บุญมา)  
พระสวามี "เจ้าอโนชา"
มิลังเล ที่จะจัดทัพขึ้นไปช่วยป้องกันเมืองเชียงใหม่
แต่สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ "บุญมา"
ทรงพระประชวร "พระโรคนิ่ว" พระอาการมาก 
สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ 
เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์  “ทองอิน”
เสด็จไปเยี่ยมดู พระอาการที่ เมืองเถิน 
เห็นพระอาการ สมเด็จพระเจ้าน้า กรมพระราชวังบวรฯ
แล้วก็ทรงกรรแสง
กรมพระวังหลัง (ทองอิน)เสด็จยกทัพ ขึ้นไป กับ
เจ้าบำเรอภูธร “กรมขุนสุนทรภูเบศร์" 
(เรือง หรือ จีนเรือง ) เศรษฐีบางปลาสร้อย
ที่เป็นพี่น้องร่วมสาบาน กับกรมพระราชวังบวรฯ วังหน้า
เมื่อครั้งพระเจ้าตากสิน เสด็จไปตีเมืองจันทบุรี
ตีได้เมืองลำพูน พม่าที่รักษาเมืองลำพูนแตกพ่ายไป
จับได้ตัว “เยสิดอง”ปลัดทัพพม่า 
กับไพร่หลายคน 
"เยสิดอง" คนนี้เป็นลูกไทยชาวกรุงเก่า 
บ้านบิดามารดาอยู่ “บางกะจะ"ใกล้ "วัดแพนงเชิง" 
เมื่อพม่าตีกรุงเก่าได้ นั้น 
"เยสิดอง" ชื่อ “มาก” 
เป็นเชลย ที่พม่า ได้เอาไปใช้สอย จนคุ้นเคย
เมื่อจะยกมาตีเมืองเชียงใหม่ 
จึงตั้งให้เป็นที่ "เยสิดอง"ปลัดทัพ มาในกองทัพด้วย.


สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท หรือ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (บุญมา)



พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นอดุลยลักษณสมบัติ ทายาทกรมขุนสุนทรภูเบศร์ (จีนเรือง) ต้นราชสกุล อุไรพงศ์



วัดใหญ่อินทาราม ชลบุรี ในอุปถัมภ์ของ "จีนเรือง" เศรษฐี เมืองบางปลาสร้อย (ชลบุรี)



ภาพวาด นายทหารฝ่ายพม่า



บางกะจะ ข้าม วัดแพนงเชิง พระนครศรีอยุธยา



เจดีย์ประธานวัดใหม่บางกะจะ ตรงข้ามวัดพนัญเชิง ที่บิดามารดา ของ "นายมาก" อยู่สมัยก่อนกรุงแตก แล้วถูกจับเป็นเชลยไปอยู่พม่า ๓๕ ปี จนได้ตำแหน่งเป็น "เยซิดอง" ปลัดทัพพม่า ยกมาตีได้เมืองลำพูน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น