ชีวประวัติ ปี ๒๕๒๖
นักโบราณคดี
ตอน...เมื่อรู้สึกสิ้นหวัง และหมดกำลังใจ
จะทำอย่างไร ?
วันจันทร์ที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๖
ออกจากบ้านบางยี่ขัน
ไป กบค.พบพี่ขุน ( คงเดช ประพัฒน์ทอง) ,
ผอ.(สมศักดิ์ รัตนกุล)
เจรจาสอบถามถึงเรื่อง ปัญหา รวมทั้งเหตุผล
ที่ต้องบังคับให้ ลงจากเขาพนมรุ้ง ไปอยู่อยุธยา
พบตุ้ย,ผี (สถาพร ขวัญยืน)
ชวนกันไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน
บ่ายเรากลับบ้าน มานอนอ่อนเพลียอยู่กับบ้าน
นอนไม่หลับทั้งคืน "น้อยใจในวาสนา"
ต้องหันเข้ามาอ่าน และคัดลอก
"พระพุทธพจน์"
เพื่อระงับจิตใจที่ฟุ้งซ่านให้ลดลงบ้าง
ยังดีกว่า ไม่มีอะไรเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
ข่มจิตระงับใจ ให้สติแตก
จนบังคับตนเองไม่ได้
พุทธพจน์ในพระสูตร เกี่ยวกับการสิ้นสุดแห่งทุกข์
" ดูกรพาหิยะ เมื่อใดตาของเธอเห็นรูปแล้ว ให้สักแต่ว่าเห็น
เมื่อใดหูของเธอได้ยินแล้ว ให้สักแต่ว่าได้ยิน
เมื่อใดจมูกของเธอได้กลิ่มแล้ว ให้สักแต่ว่าได้กลิ่น
ลิ้นของเธอได้ลิ้มรสแล้ว ให้สักแต่ว่าได้ลิ้มรส
กายของเธอได้สัมผัสแล้ว ให้สักแต่ว่าได้สัมผัส
ใจของเธอได้รับอารมณ์ใดแล้ว ให้สักแต่ว่าได้รับ
( อย่าให้เกิดเวทนา)
เมื่อนั้น ตัวของเธอก็จะไม่มี
คัดลอกมาจาก “พระสูตรแห่งการสิ้นสุดแห่งทุกข์”
ถึงกระนั้น ก็ยังนอนไม่หลับ จน
วันอังคารที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๖
ลุกขึ้นมาเขียนข้อความระบายความในใจไว้ในสมุดบันทึก
หลายหน้ากระดาษสมุดบันทึก
หลับได้แล้ว...พรุ่งนี้ ลุกขึ้นสู้ต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น