ลพบุรี : หมดความสำคัญ  ถึงต้องรื้อกำแพงเมืองทิ้ง

เมืองลพบุรีมามีกล่าวถึงในพระราชพงศาวดารฯอยุธยาอีกครั้ง 

ในแผ่นดินสมเด็จพระยอดฟ้า (พ.ศ.๒๐๙๐ - พ.ศ.๒๐๙๑) 

เมื่อครั้ง ขุนพิเรนทรเทพ และพรรคพวก 

จะหาเหตุจับขุนวรวงษาธิราช เมื่อ 

มีกรมการเมืองลพบุรี บอกลงมาว่า 

มีช้างพลาย สูง ๖ ศอก ๔ นิ้ว หูหางสรรพต้องลักษณติดโขลง เข้ามา

มีรับสั่งว่า "เราจะขึ้นไปจับ อีก ๒ วันเราจะเสด็จ" 

แล้วสั่งให้มีตราขึ้นไปว่า "ให้กรมการจับเสียเถิด”  

หลังสงครามเสียพระสุริโยทัย 

และพระราชทานเพลิงแล้ว( ปีเถาะ พ.ศ.๒๐๙๘  ) 

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (สมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราช ตรัสว่า

 “ไพร่บ้านเมืองตรีจัตวา ปากใต้ฝ่ายเหนือเข้าพระนครครั้งนี้น้อย 

หนืออกป่าดงห้วย เขาต้อนไม่ได้เป็นอันมาก ....

แล้วปรึกษาว่า "กำแพงลพบุรี (เมืองนครนายก เมืองสุพรรณบุรี)

๓ เมืองนี้ ควรจะล้างเสีย หรือเอาไว้"

 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระรามเมศวร พระมหินทราธิราช 

กับมุขมนตรีพร้อมกันปรึกษากราบทูลว่า 

"จะให้ไปรับทัพหัวเมืองนั้น ถ้ารับได้ก็จะเป็นคุณ 

ถ้ารับมิได้ ข้าศึกจะอาศัย ให้รื้อกำแพงเสียดีกว่า”  

ดังนั้น กำแพงเมืองตั้งแต่ ทวาราวดี จนถึง เมือง "ละโว้" 

จึงไม่มีให้เห็นในปัจจุบัน 

นอกจากร่องรอย น้อยนิดที่ยังปรากฎอยู่ เท่านั้น

ส่วนกำแพงเมืองที่ยังเห็นอยู่ในปัจจุบัน

สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทั้งสิ้น

ขอบคุณภาพประกอบจาก Google

(ในวงกรอบแดง) แนวคูเมืองกำแพงเมือง สมัยทวาราวดี - ลวปุระ

แผนผัง ป้อมและกำแพงเมือง

สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ( ครองราชย์ พ.ศ.๒๑๙๙ - พ.ศ.๒๒๓๑ )

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ( ครองราชย์ พ.ศ.๒๑๙๙ - พ.ศ.๒๒๓๑ )

ป้อมและกำแพงเมือง

สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ( ครองราชย์ พ.ศ.๒๑๙๙ - พ.ศ.๒๒๓๑