ตามรอยสุนทรภู่ไปสุพรรณฯ
สุนทรภู่ แต่งโลงนิราศสุพรรณ เมื่อใด ?
๑๒๏ ยนฉนวนหวนนึกน้ำ เนตรนอง
พระธินั่งบันลังทอง ที่เฝ้า
ชำระพระนิพนสนอง เสด็จสนิด ชิดเอย
สริ้นแผ่นดินปิ่นเกล้า กลับร้างห่างฉนวน ฯ
๑๕ ๏ ท่าช้างหว่างค่ายล้อม แหล่งสถาน
ครั้งพระโกฎโปรฐประทาน ที่ให้
เคยอยู่คู่สำราน ร่วมเย่า เจ้าเอย
เหนแต่ที่หมีได้ ภบน้องครองสงวน ฯ
เมื่อผ่านฉนวนพระราชวังหลวง สุนทรภู่
ก็รำพึงรำพันถึงเมื่อครั้งยังรับราชการรุ่งเรือง
ช่วยเป็นที่ปรึกษาแก้ไขพระราชนิพนธ์
จนเป็นที่โปรดปราน จนถึงกับได้รับพระราชทาน
เรือนแพที่พักริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ใกล้ท่าช้างวังหลวง
ได้อยู่ดีมีสุขกับภริยาคนหนึ่ง
จนตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ครั้นเมื่อสิ้นแผ่นดิน รัชกาลที่ ๒ แล้ว
สุนทรภู่เกรงราชภัย ที่เคยได้ทำไว้ โดยเฉพาะกับ
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓
ต้องไปบวชเป็นภิกษุอยู่ที่วัดเลียบ
มีสภาวะอันตกอับ ต้องย้ายวัดไปเรื่อย
จนตลอดสมัยรัชกาลที่ ๓
มากกว่า ๒๐ ปี
โคลงในบทที่ ๑๔ ของโคลงนิราศสุพรรณ เขียนไว้ว่า
๑๔. อีกองมงกุฎเกล้า เชากรุง
สืบกษัตรขัติยบำรุง รอบแคว้น
ถวายพระอนิสงพดุง พเดชเฟื่อง กเดื่องเอย
สิ่งโศกโรคเรื่องแค้น ขจัดผ้ายวายเขนฯ
หลังจากพระภิกษุภู่สึกหาลาเพศจากวัดราชนัดดา
เมื่อ ปี ขาล พ.ศ.๒๓๘๕-๖ (ปีที่ ๑๙ ในรัชกาลที่ ๓ )
และหลังจาก “เจ้าฟ้ามงกุฎ” ได้เสวยราชย์สมบัติเป็น
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แล้ว
สุนทรภู่ จึงได้แต่ง โคลงนิราศสุพรรณฯ ขึ้น
ในระหว่างปี พ.ศ.๒๓๙๔ - พ.ศ.๒๓๙๘
(ปีที่ ๑ ในรัชกาลที่ ๔ - ปีที่ ๕ ในรัชกาลที่ ๔)
ซึ่งเป็นปีที่ สุนทรภู่ถึงแก่กรรม
ตอนแต่งโคลงนิราศสุพรรณ
สุนทรภู่จึงมีอายุระหว่าง ๖๕ -๖๙ ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น