ตามรอยสุนทรภู่ไปสุพรรณฯ
"รักแรกของสุนทรภู่"
๑๖ ๏ วังหลังครั้งหนุ่มเหล้า เจ้าเอย
เคยอยู่ชูชื่นเชย ค่ำเช้า
ยามนี้ที่เคยเลย ลืมภัก พี่แฮ
ต่างชื่นอื่นแอบเคล้า คลาศแคล้วแล้วหนอ ฯ
๑๗๏ คิดคำลำฦกไว้ ใคร่เตือน
เคยรักเคยร่วมเรือน ร่วมรู้
อย่าเคืองเรื่องเราเยือน ยามแก่ แม่เอย
ใครที่มีชู้ชู้ ช่วยช้ำคำโคลง ฯ
สมเด็จกรมพระราชวังหลัง
หรือ สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์
พระนามเดิม ทองอิน
(๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๒๘๙ - ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๔๙)
เป็นกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ และเป็นพระองค์สุดท้าย
ตั้งวังอยู่ที่สวนลิ้นจี่ ในเมืองเดิมฟากตะวันตก
ริมคลองบางกอกน้อย ( ร.พ.ศิริราช ปัจจุบัน)
สุนทรภู่เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๓๒๙
(ปีที่ ๕ ในรัชกาลที่ ๑ )
และ มารดาของสุนทรภู่เป็นนางนม
ของพระธิดาในสมเด็จกรมพระราชวังสถานพิมุข
เด็กชายภู่ จึงเป็นเด็กวังหลัง อยู่กับมารดา
ตั้งแต่เล็กจนโตเป็นหนุ่มที่วังหลัง
และได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลัง คือ
เริ่มรับราชการเป็นครั้งแรก ที่วังหลังนี้เอง
ความในโคลงสองบท (๑๖ ,๑๗) นี้
เหมือนกับจะชี้ให้เห็นถึงผู้หญิงคนแรก ของสุนทรภู่
ที่เป็นสาวชาววังหลัง “เคยอยู่ชูชื่นเชย”
หรือ “เคยรักเคยร่วมเรือน” แต่ก็เลิกรากันไป
หญิงของสุนทรภู่ยังมีชีวิตอยู่ที่วังหลัง
มาจนถึงครั้งเมื่อแต่งโคลงนิราศสุพรรณ
“อย่าเคืองเรื่องเราเยือน ยามแก่ แม่เอย” (อายุ ๖๕ ขึ้น)
เป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่ง ที่ใช้ประกอบ ข้อวินิจฉัย ว่า
โคลงนิราศสุพรรณ
แต่งขึ้น ในช่วงปัจฉิมวัย ของสุนทรภู่
สมเด็จกรมพระราชวังหลัง หรือ สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ พระนามเดิม ทองอิน (๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๒๘๙ - ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๔๙) เป็นกรมพระราชวังบวรสถานพิมุขในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑
พระราชวังบวรสถานพิมุข (วังหลัง) ในอดีต
พระราชวังบวรสถานพิมุข (วังหลัง) หรือ โรงพยาบาลศิริราช ในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น