ตามรอยสุนทรภู่ไปสุพรรณฯ
"วัดแจ้ง" เป็น "วัดอรุณ" เมื่อใด
สุนทรภู่ ออกพ้นจากปากน้ำคลองโอ่งอ่าง
เลี้ยวขึ้นมาทางเหนือของแม่น้ำเจ้าพระยา
ผ่าน วัดแจ้ง (วัดอรุณราชวรรามราชวรมหาวิหาร)
สุนทรภู่ ได้เขียนถึงวัดนี้ ว่า
๑๐๏ วัดแจ้งแต่งตึกตั้ง เตียงนอน
เคยปกนกน้อยคอน คู่พร้อง
เคยลอบตอบสารสมร สมารสมัก รักเอย
จำจากพรากนุชน้อง นกน้อยลอยลม ฯ
“วัดแจ้ง” เป็นชื่อวัดที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา
ใน “เพลงยาวหม่อมภิมเสนบ้านเมืองดี”
วรรณกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย กล่าวเริ่มต้น ว่า
ออกเดินทางจากวัง มาลงเรือรบ ชื่อ “กระหนกจาม” ที่ ประตูชัย
ผ่านบ้านดิน วัดโพไชยราม เกาะพระ ถึงทนบุรี
จอดเรือนอนที่ หน้าวัดแจ้ง ดังเพลงยาวว่า.-
“ถึงตัวไกลใจน้องยังผูกพัน จนไก่ขันกระชั้นเร่งระวีวรฯ
@เขาแจวเรือมาจอดหน้าวัดแจ้ง แรงร้อนข่อนคิดขุ่นสมร
ประทับร้อนระทมอารมร้อน แต่ทอดถอนใจหาทุกนาทีฯ”
ในพระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)
บันทึกเหตุการณ์ในช่วงปลายแผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรี ว่า
“ ลุศักราช ๑๑๔๐ ปีจอสัมฤธิศก ครั้นปีกุรเอกศก ( พ.ศ.๒๓๒๒ )
ดำรัสให้พระเจ้ากษัตริย์ศึกเป็นจอมทัพ
ไปกระทำแก่กรุงศรีสัตนาคนหุต ได้
จึงอัญเชิญพระพุทธปฏิมากรแก้วมรกตลงมา ณ กรุงธนบุรี
พระเจ้าอยู่หัวให้แต่งโรงรับเสด็จขึ้นประดิษฐานไว้
ณ ข้างพระอุโบสถวัดแจ้ง แล้วก็กระทำมหันตสักการสมโภชเป็นอันมาก”
รัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เมื่อจะทรงย้ายราชธานี
จาก กรุงธนบุรี ไป อยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา
ก็ยังเรียกชื่อวัดนี้ ว่า “วัดแจ้ง”
ดังที่ทรงมีพระราชดำริ ตอนหนึ่งว่า
“พระราชนิเวศน์มาเทียรสถานเล่า ก็ตั้งอยู่ในที่อุปจาร
ระหว่าง”วัดแจ้ง” (วัดอรุณฯ)และ “วัดท้ายตลาด”(วัดโมลีโลกยาราม)
ขนาบอยู่ทั้งสองข้าง ควรเป็นที่รังเกียจ”
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ขึ้นแล้ว ก็โปรดเกล้าฯ ให้
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร
เสด็จไปประทับที่พระราชวังเดิม
และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ ๑
สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร
ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็น
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ วัดแจ้ง ต่อมา
และพระราชทานนามใหม่เป็นทางการ ว่า “วัดอรุณราชธาราม”
ต่อมามีพระราชดำริที่จะเสริมสร้างพระปรางค์หน้าวัดให้สูงขึ้น
แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน
จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้าฯ ให้เสริมพระปรางค์ขึ้น
และให้นำมงกุฎที่หล่อสำหรับพระพุทธรูปทรงเครื่อง
ที่จะเป็นพระประธานวัดนางนอง
มาติดต่อบนยอดนภศูล
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชธารามหลายรายการ
และให้อัญเชิญพระบรมอัฐิ
ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
มาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วย
เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้นลง
พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดอรุณราชวราราม”
ในโคลงนิราศสุพรรณฯ ได้กล่าวถึงชื่อใหม่ของวัดแจ้งไว้ด้วย ว่า
“วัดวรุณราช”
เพียงแต่เปลี่ยนคำจาก “อรุณราช” มาเป็น “พระวรุณราช” ไปในเชิงกวีนิพนธ์ แต่ ก็ยังมี คำว่า “วัด” ติดเข้ามาในบาทสุดท้ายด้วย
๑๑ ๏ สาวแก่แม่ม่ายแม้น มีคุณ
ขอเดชะพระวรุณ ราชรู้
ยามดึกนึกส่งบุญ แบ่งฝาก มากเอย
วัดช่วยอวยสวัสดิขู้ คิดพร้องสนองเพลง ฯ
คนทั่วไปยังติดที่จะเรียกชื่อเก่าของวัดว่า “วัดแจ้ง”
มากกว่าจะเรียกว่า “วัดอรุณฯ”
ดังที่ สุนทรภู่ ) ประพันธ์ไว้ใน "โคลงนิราศสุพรรณ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น