สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ไม่ได้รบกับพม่า ที่ ปากน้ำโจ้โล้
เหตุเพราะ พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ทุกฉบับ
บันทึกไว้เหมือนกัน ว่า....
เมื่อกองทัพ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ทรงยกพล ข้าม ด่านกบแจะ แล้ว
(สันนิษฐานว่า) ยกกองทัพเลียบแม่น้ำบางปะกง
มาทางฝั่งตะวันออก แล้วให้ยกพลนิกร “ข้ามทุ่ง” ไป
จนบ่าย ๕ โมง ตรัสทราบว่า
“พระเชียงเงิน ขุนพิพิธวาที นักองค์ราม เจ้ากรุงกัมพูชา ๓ คน นี้มามิทัน”
(ทรงเป็นห่วง) จึงทรงม้า เสด็จ(กลับ)มากับหลวงพรหมเสนา
จะเร่งพวกพระเชียงเงิน...
(แต่) ก็มิได้พบ
ครั้น รุ่งขึ้น วันจันทร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๒ ปีจออัฐศก ( จ.ศ. ๑๑๒๘ )
ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ.๒๓๐๙
ให้ยกพลทหารเข้าไปในป่า (เมืองโบราณศรีมโหสถ )
ประทับที่ สำนักหนองน้ำ ( หนองสะแก วัดหนองสะแก)
หุงอาหารสำเร็จแล้ว
เพลาบ่ายประมาณ ๒ โมง
พระเชียงเงินมาถึง ทรงพิโรธตรัสให้โบย ๓๐ ที
แล้วตรัสเห็นกิริยา พระเชียงเงินว่า
“มิเป็นใจด้วยราชการ”
จึงสั่งให้ประหารชีวิตเสีย (แต่) นายทัพนายกองทูลขอชีวิตไว้
ครั้นเพลาบ่ายประมาณ ๔ โมง
พม่าไล่แทงฟันคนซึ่งเลื่อยล้าอยู่นั้นวิ่งหนีมาตามทาง
ครั้นได้ทอดพระเนตรเห็น
จึงให้นายบุญมี ขึ้นม้าใช้ สวนทางลงไป (ย้อนกลับไป)
ประมาณ ๒๐๐ เส้น (๘ ก.ม.)
พบกองทัพพม่า
ยกขึ้นมาแต่ปากน้ำโจ้โล้ ทั้งทัพบกทัพเรือ
มาขึ้นที่ท่าข้าม (ตำบลท่างาม ใกล้ด่านกบแจะ)
ครั้นเห็นธงเทียว เสียงฆ้องกลอง ก็รู้ว่าเป็นพม่ามั่นคงแล้ว
ก็กลับมากราบทูลตามที่ได้เห็นทุกประการ
ของคุณ Google Map
เส้นทางสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากด่านกบแจะ ตำบลท่างาม (ท่าข้าม) ตัดทุ่งมาประทับแรม ที่ใกล้หนองน้ำสะแก (สำนักหนองน้ำ) ท้ายป่า เมืองโบราณศรีมโหสถ
พม่ายกทัพบกมาแต่ปากน้ำโจ้โล้ เมืองฉะเชิงเทรา มาขึ้นที่ท่าข้าม ด่านกบแจะ เมืองปราจีน ตั้งใจมาสกัดทัพพระยาวชิรปราการ ทั้งทางบกและเรือ จึงได้แต่ไล่ล่าพวกที่ตามไม่ทัน
ตำแหน่งที่ประทับ หยุดกองทัพ รอพระเชียงเงิน ขุนพิพิธวาที และเจ้ากรุงกัมพูชา ทั้ง ๓ คน จนถึงต้องลงพระอาญา เมื่อมาถึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น