อัตชีวประวัติ ปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์)
ภาค หัวหน้าหน่วยศิลปากร ที่ ๖ พิมาย
ตอนที่ ๓๖ : ๖ วันในทุ่งกุลาร้องไห้..."กู่คันธานาม"
วันจันทร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๒๑
เก็บตัวอย่างขี้นกอินทรีย์ แล้ว
เดินทางต่อไป กิ่งอำเภอ โพนทราย
โดยการนำของ "พระสมุห์พิรุณ" เจ้าอาวาสวัดกลาง สุวรรณภูมิ
แวะรับ เจ้าอาวาสวัดทุ่งสว่าง เดินทางไปด้วย
ทางไม่ค่อยดีนัก เพราะกำลังพัฒนาถนน
สืบเนื่องมาจากโครงการพัฒนาที่ดิน ในพระราชดำริ
ทุ่งที่แห้งแล้ง กลายเป็นท้องทุ่งที่เขียวขจี ไปจนสุดลูกหูลูกตา
รถแลนด์โรเวอร์ ของหน่วยศิลปากร ที่ ๖ พิมาย
ติดหล่ม กลางท้องทุ่งกุลาร้องไห้...อย่างที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้
ได้อาศัยคุณูปการ ของ พระภิกษุ พิรุณ
ไม่นานนัก ก็มีรถไถนามาลากรถเขาขึ้นจากหล่มได้ โดยปลอดภัย
เมื่อไปถึงบ้านโยมเจ้าของรถไถนา เกินเวลาเพล แล้ว
พวกเรา เที่ยวจัดหา ซื้อ อาหาร มาถวายเพล ที่บ้าน
ท่านสมุห์พิรุณ บอกไม่เป็นไร....เพราะ
อยู่ในระหว่างการทำงานในหน้าที่ พอยกเว้นได้
สมัย ชื่นใจ (ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว)
หมอบปางจะตายมาตลอดทาง
เพราะอาการเมาหนัก มาจากที่หน้าโรงหมอลำ เมื่อคืนนี้ นั้นเอง
ออกจากบ้านโยมเดินทางต่อ ไป "กู่คันธานาม"
บ้านหนองฝั่งแดง ต.โพนทราย กิ่ง อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด
"กู่คันธานาม" เป็นศาสนสถาน สร้างด้วยศิลาแลง และหินทราย
ของขอมในประเทศไทย อายุในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘
จากตำแหน่งที่ตั้งของศาสนสถานแห่งนี้
มีความเป็นไปได้ ทั้งความเป็น "ศาลามีไฟ" หรือ ที่พักคนเดินทาง
และ "อโรคยาศาล" หรือ "โรงพยาบาล"
ที่มีระบุในจารึกว่า ...สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ แห่งเมืองพระนคร
ขอบคุณ ภาพประกอบจาก Google
เส้นทางจากวัดบ้านสระโพนทอง ผ่านวัดทุ่สว่าง บ้านจานเตย ถึง กิ่งอำเภอโพนทราย ในทุ่งกุลาร้องไห้ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
เส้นทางจากที่ว่าการอำเภอโพนทราย ไปยัง กู่คันธานาม
รถแลนด์หน่วยศิลปากร ที่ ๖ พิมาย ๓ วันดี ๔ วันไข้
กู่คันธานาม บ้านหนองฝั่งแดง ต.โพนทราย กิ่ง อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น