Best Thai History

Amps

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563

สํารวจเส้นทาง เขื่อนศรีนครินทร์ อยู่แบบ ชีวิตชาวป่า โฮสเทล บ้านนาสวน พบ สาวกะเหรี่ยง

"บันทึกการเดินทางไปสำรวจแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี"

ตอน: "ชีวิตและสังคม"

เมื่อ อาจารย์ พิสิฐ เจริญวงศ์
กับ ดร.เชษฐ์ คอร์มัน (Dr.Cheter Gorman)
กลับมาจาก การไปตามหา
"หม่องปะ" ที่เวียงสละ ปากแม่พลู
แล้วไม่พบ

เพราะหม่องปะเดินทางเข้าป่าไป
"อุทัยธานี" แล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน

คณะเราจึงต้องล่องเรือกลับมานอนที่
"ละมุดสโมสร และ โฮสเทล" บ้านนาสวน อีกคืน

กลับถึงบ้านนาสวน เมื่อเวลา ๑๘.๓๐ น.
คืนนี้ก็จะเป็นคืนที่อิสระกันอย่างเต็มที่
เพราะวันพรุ่งนี้ ก็จะเป็นวันเดินทางกลับกรุงเทพฯแล้ว

ข้าพเจ้านึกรำคาญตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
ที่จะต้องเอาชีวิตมาต่อด้วยชีวิตอื่น เบียดเบียนกัน
เมื่อมองเห็นนัยน์ตาแจ๋ว ๆ ...
เสียงร้องอย่างตกใจกลัว
และเสียงร้องเมื่อการหายใจครั้งสุดท้ายมาถึง
มันทำให้ข้าพเจ้าเกิดความสังเวช
สงสาร และนานาจิปาถะ

แต่...ก็จำเป็นต้องกินน้ำแกงเจ้าไก่เคราะห์ร้ายตัวนั้น...

วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๖

ข้างร้านละมุด มีบ้านเล็ก ๆ อยู่หลังหนึ่ง
เป็นบ้านกะเหรี่ยง
และเป็นบ้านหนึ่งที่น่าสนใจในสายตาของพวกผู้ชายทั้งหลาย

เพราะกะเหรี่ยงสาวลูกครึ่งไทย ชื่อ
“ทองหล่อ”
เธอเป็นสาวบ้านป่าคนหนึ่ง
ที่จัดอยู่ในประเภทสวยงาม น่ารัก
แม้ว่ารูปร่างออกจะอวบอั๋นไปสักหน่อยก็ตาม
ผิวขาว ผมยาวเกือบถึงเอว
อายุประมาณ ๑๙ - ๒๐
อันเป็นวัยที่กำลังเติบโตและเป็นสาวเต็มตัว

ข้าพเจ้าเองอดที่จะมองเธอไม่ได้
มองความสวยและนัยน์ตาที่ท้าทาย แล้วก็สะเทิ้นหลบ

เธอเป็นหญิงกะเหรี่ยง
ที่พูดไทยได้คล่องพอกับคนไทย
ซึ่งจัดอยู่ในประเภทกะเหรี่ยงที่ทันสมัยแล้ว

จึงดูเหมือนหญิงไทยธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
สำเนียงที่พูดภาษากะเหรี่ยง
ฟังเหมือนภาษาพม่า เร็วและห้วน

ชาวกะเหรี่ยงเท่าที่ข้าพเจ้าสังเกตดู
เห็นผู้หญิงขะมักเขม้นทำงานกันตัวเป็นเกลียว
แต่ผู้ชายเห็นเรื่อย ๆ
ไม่ค่อยทำอะไรกัน

อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้เป็นระยะเวลาที่ว่างอยู่ก็ได้
ส่วนใหญ่พี่น้องผู้ชาย ๒ คน ของ สาวทองหล่อ
มักจะมานั่งเป็นขาประจำอยู่ที่ร้านพี่ละมุด

ตั้งวงเล่นไพ่อยู่ตลอดเวลา มิได้ขาด
ใช้จ่ายเงินไปในแต่ละครั้งมิใช่น้อย
แม้เขาจะมีความเสียใจ
แต่ก็คงไม่สะดุ้งสะเทือนอะไรมากนัก

เพราะวันรุ่งขึ้น เขาก็กลับมานั่งร่วมวงใหม่อีกครั้ง

การพนัน คงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ของคนที่อยู่ไกลจากที่ชุมชนหนาแน่น หรือ เมืองใหญ่ ๆ

สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
ในยามว่างของพวกเขาไม่มี

นอกจากจะมานั่งรวมวงชุมนุมกันอยู่ตามร้านค้า
กินเหล้าและเล่นไพ่ไปตามเรื่อง

พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้เป็นห่วง
เกี่ยวกับเรื่องของเงินทอง
เขาหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงได้ครั้งละไม่ใช่น้อย
เหลือจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแล้ว
ก็ไม่ได้นำเงินไปใช้ในทางอื่นอีก

การพนันจึงเป็นทางออกทางเดียวเท่านั้น
ที่จะหาได้ในบ้านป่าอย่างนี้

นอกจากชาวบ้านโดยแท้แล้ว
หมออนามัยที่มาประจำอยู่ที่หมู่บ้านนี้
ก็อดที่จะร่วมวงกับเขาด้วยไม่ได้

หมอจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในวงพนัน
หากจะมีใครเจ็บป่วย ไปหาหมอที่บ้านไม่พบแล้ว
ก็จะมุ่งมาที่ร้านพี่ละมุด
แล้วจะไม่พบกับความผิดหวังกลับไป

แต่บางครั้งอาจต้องเสียเวลาคอยสักหน่อย
ถ้าหากหมอยังติดพันอยู่กับวงไพ่

ขอบคุณภาพประกอบ จาก Google


สาวกะเหรี่ยงลูกครึ่งไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น