Best Thai History

Amps

วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

การเดินทาง นายท้ายเรือ คนใหม่ ปากนาสวน - บ้านองข่า เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี

วัตรปฏิบัติ บางวัน ในการเรียนโบราณคดี รอบสอง

"บันทึกการเดินทางไปสำรวจแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี"

ตอน: ปากนาสวน - บ้านองข่า

วันพุธที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๖

หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว
ก็ออกเดินทางต่อไปยังปากแม่พลู
แต่ก่อนที่จะไปได้
ต้องเสียเวลาต่อรองกันใหม่อีกเป็นเวลานานพอสมควร

เพราะคนขับเรือ ที่เมียแกว่าตกลงง่ายนั้น
กลับจะไม่ยอมตกลงในราคาเดิม

แกว่า หนทางที่ไปนั้นเสี่ยงอันตรายมาก
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า
คงจะเป็นเพราะมีเรือของแกเพียงลำเดียวเท่านั้นที่พอจะไปได้ ดังนั้น จึงมีการเล่นตัวบ้างพอสมควร

แกเกี่ยงจะให้เราจ่ายเงินค่าเรือ เพิ่มเป็น ๒๐๐ บาท
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้

ส่วนครั้งต่อไป แกก็ยินดีจะไปด้วยทุกหนทุกแห่ง
และอาสาจะเป็นคนนำทางให้ด้วย
ส่วนราคา ก็จะคิดให้น้อยลงอีกด้วย
อาจเหลือเพียงวันละ ๑๐๐ บาท หรือ ๑๕๐บาท เท่านั้น

เราขัดใจไม่ได้
เพราะจนใจที่จะไปหาเรือลำอื่นขึ้นไปแทนได้
จึงจำต้องยอมรับ

แต่ในใจ ก็นึกบ่นกันอยู่ตลอดเวลาว่า
“ไม่น่าจะถือโอกาสมาขูดรีดกันเลย”

นายท้ายเรือคนใหม่คนนี้ของเรา
ชื่อ “นายสุข กุลหาสิงห์”
รูปร่างผอมชะลูด ดูเป็นสิงห์ขี้ยามาก
พูดน้อย เงียบขรึมอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งผิดกับเมียอย่างมาก

การเดินทางของเราในช่วงนี้ ดูราบรื่นดี
แม้เรือจะลำเล็กจนต้องนั่งเบียดกัน
แถมจะกระดุกกระดิกมากไม่ได้

เส้นทางที่ผ่านมาก็เป็นเกาะแก่ง
น้ำไหลแรง เชี่ยวกรากจนน่ากลัว
เพราะคิดว่าเรือจะผ่านไปไม่ได้

หวาดเสียวกว่า ช่วงแม่น้ำแควใหญ่ตอนที่มาเมื่อวานมาก

เราออกเดินทางจากบ้านปากนาสวน เมื่อเวลา ๑๐.๑๕ น.
ใช้เวลาเดินทาง ๑ ชั่วโมงครึ่งพอดี

ส่วนหนึ่งในคณะของเรา
คือ อารมณ์ ฉลวย และข้าพเจ้า จะต้องพักอยู่ที่นี่

เพราะเส้นทางต่อไปนี้จะต้องผ่าน "แก่งยาว"ที่อันตรายมาก

การเดินทางด้วยเรือที่เพียบแปล่ปริ่มน้ำ
อาจจะไม่ปลอดภัย

ดังนั้น เมื่อเรือ ถึง "บ้านองข่า"
ก็เป็นเวลาอาหารกลางวันพอดี
จึงแวะขึ้นบนบ้านนายสุข
จัดการกับอาหารกลางวันเสียก่อน

อาหารมื้อนี้ นอกจากกุนเชียงที่เตรียมไปจากนครปฐมแล้ว

นายสุข...เอาแหใส่เรือออกไปกลางแม่น้ำ
เหวี่ยงแหโครมเดียว

ได้ปลามาทำอาหารเพิ่ม ได้อีก
เป็นปลา (ตัวใหญ่มาก)ย่าง ๑ ตัว
และแกงปลาอีก ๑ อย่าง

นับว่าอาหารมื้อนี้ กินกันได้อย่างเอร็ดอร่อยพอควร
ทั้ง ๆ ที่ข้าพเจ้า ไม่เคยชอบอาหารปลาน้ำจืดมาก่อนเลย

ข้าวไร่มีรสชาติเหมือนข้าวอ่อนทางบ้านเรา
คล้าย ๆ กับข้าวเหนียว กินอร่อยดี

ถ้าหากจะพูดถึงเรื่องอาหารการกินแล้ว
นับว่า คนพื้นที่นี้ ถ้ารู้จักจับปลาได้ดี
จะไม่มีความอดอยากเลย

ถ้าเทียบกับทางภาคอีสานแล้ว
จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เมืองกาญจนบุรี
บริบูรณ์กว่ามากนัก

อาจารย์พิสิฐ กับเชษฐ และ นายเล็ก
ออกเดินทางต่อไปยังปากแม่พลู
ทิ้งให้เราสามคนทำการสำรวจ
ในบริเวณบ้านองข่าไปพลาง ๆ ก่อน



ระยะทางในแม่น้ำแควใหญ่ จาก บ้านปากนาสวน ถึงปากแม่พลู


ระยะทางจาก (จุดดำ) บ้านองข่า ผ่านแก่งยาว ไปถึงบ้านปากพลู


ภาพถ่ายทางอากาศ จาก(จุดสีนวล) บ้านองข่า ผ่านแก่งยาว ถึง(จุดแดง) ปากน้ำแม่พลู ปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น