ตอน : ล่องใต้ไปขุดที่ นครศรีธรรมราช รอบสอง ๒
๑๑ - ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๕...
(๒) ระนอง - นครศรีธรรมราช
วันเสาร์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๕
เก็บของแล้ว หาอะไรกินเป็นอาหารเช้า นิดหน่อย
เพราะคาดการณ์กันว่า
จะไม่พักแวะที่ใดเลย จนกว่าจะเที่ยง
คณะเราออกเดินทางจากเมืองระนอง เมื่อเวลา ๐๘.๒๐ น.
พอรถวิ่งออกนอกเมือง
ก็เห็นทัศนียภาพอันสวยงามของเมือง
ที่วางผังเมืองใหม่ขยายออกมาจากเขตตัวเมืองเก่า
ที่เราพักเมื่อคืน มีบ้านสวย ๆ อยู่ห่าง ๆ กัน
มีภูเขาเตี้ย ๆ ทุ่งราบ และเหมืองแร่อยู่ประปราย
เมื่อออกห่างไกลเมือง
ระยะช่วงการเดินทางสายนี้
พวกเราเก็บภาพสวย ๆ ได้มาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า
ซึ่งเป็นช่วงที่ถนนขึ้นบนเขาสูง
เมื่อมองลงไปจะเห็นอ่าวทางด่านตะวันตก คือ
มหาสมุทรอินเดีย อย่างขัดเจน และสวยงามมาก
คณะเราแวะที่
วัดสุวรรณคูหา
ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
เพื่อแวะดูถ้ำ
ในถ้ำกว้างขวางและใหญ่มาก
ถ้ำตอนล่างเตี้ย ไว้พระพุทธรูป
มีรอยพระพุทธบาท จารึก ไว้ ว่าสร้างขึ้นใน ปี พ.ศ.๒๔๐๕
และรูปเคารพของอดีตเจ้าอาวาส ที่สะดุดตา คือ
พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ เท่านั้น
ถ้ำตอนบนงามด้วยหินย้อยและสีสันอันวิจิตรตามธรรมชาติ
ถ้ำตอนนี้สูงใหญ่ กว้าง
เหมาะที่จะมีคนก่อนประวัติศาสตร์มาอาศัยอยู่ได้เป็นอย่างยิ่ง
แต่ผลจากการขุดค้นบางตอน
ไม่พบร่องรอยใด ๆ ที่เป็นของมนุษย์
พบแต่โครงกระดูกของสัตว์ขนาดใหญ่
(อาจารย์ พิสิฐ อธิบายให้ฟัง)
นอกจากถ้ำที่วัดสุวรรณคูหา แล้ว ยังมีถ้ำอื่น ๆ อีก
เช่น ถ้ำฤษี เป็นต้น
คณะเราแวะรับประทานอาหารกลางวัน ที่ในตัวจังหวัดพังงา
มีเขารูปร่างแปลก ๆ ในเขตจังหวัดนี้
ทำให้ที่ตั้งของจังหวัดพังงา
อยู่ในทำเลที่สวยงาม ด้วยมีภูเขาล้อมรอบ
และก็ไม่ห่างไกลจากทะเลมากนัก
เพียงแต่อากาศค่อนข้างจะร้อนในตอนกลางวันเท่านั้น
ออกจากจังหวัดพังงา
จะต้องขึ้นเขาอีกลูกหนึ่ง ระยะทางการขึ้นเขา ๘ กิโลเมตร
เขาเรียกกเขานี้ ว่า “เขาหงส์”
มีเส้นทางวกไปวนมาจนเวียนหัว
แต่ก็นับเป็นเส้นทางที่สวยงามมาก ๆ ทีเดียว
เส้นทางถนนช่วงนี้ อาจจะงามกว่าเส้นทางอื่น ๆ
ตรงที่ นอกจากป่าไม้ ไหล่ทางและถนน แล้ว
ยังมีภูเขารูปร่างแปลก ๆ ประกอบอีกด้วย นั้นเอง
การเดินทางของเราต้องอ้อมมาทางนี้
เข้าทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ได้
เพราะนอกจากเส้นทางจะไม่ดีแล้ว
ยังจะต้องผ่านแดน ผกค.
ซึ่งมีอยู่มากมายและกว้างขวางมาก
ถ้าหากเราเดินทางเส้นนี้
ก็ออกจะเป็นการเสี่ยงอันตรายยิ่งนัก
เพราะ ผกค.ไม่ชอบเห็นรถแลนด์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถที่มีตราราชการ
ที่อาจจะทำให้ เข้าใจผิดว่า
จะมีการกวาดล้าง พวกเขา
นอกไปจากนั้น ประชาชนผู้หวังดี
ยังเตือนให้คณะเรารู้ว่า
การใส่เสื้อสีแบบที่ "เจี๊ยบ (อาทิตย์ แก้วผลึก)"
กับ ข้าพเจ้าใส่
ผกค.ชอบแจกลูกตะกั่วให้
เพราะเหมือนกับเสื้อของ อส. นั่นเอง
เราผ่าน จังหวัดกระบี่ เมืองเล็ก ๆ
อันมีชื่อเมืองที่น่าสนใจนัก “กระบี่”
คำนี้ จะหมายถึงพวก “ลิง” หรือ “วานร” ได้หรือไม่
เป็นปัญหาที่น่าคิด
เพราะเส้นทางนี้หรือบริเวณนี้
เป็นเส้นทางผ่านของพวกพ่อค้าวานิช
นักเผยแพร่ศาสนา แต่ในอดีต
ลัทธิการนับถือ “ลิง” หรือ “หนุมาน” ในศาสนาฮินดู
อาจจะเคยมาขึ้น ณ ที่นี้ ก็เป็นได้
แต่อะไรเล่าที่จะมายืนยันแนวคิดนี้ได้ดีไปกว่า
หลักฐานที่พบ
ซึ่งเรายังไม่เคยพบ
จึงเป็นแต่เพียงข้อคิดเห็น
เพียงแนวหนึ่งเท่านั้น
จากจังหวัดกระบี่
เข้า อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
แวะพักรถที่อำเภอทุ่งสงพักหนึ่ง
แล้วตีรถเข้าตัวจังหวัดนครศรีธรรมราช
ถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช
หน่วยศิลปากร ที่ ๘
เมื่อเวลา ๑๗ น.เศษ
อาบน้ำเสร็จ
ออกไปหาอาหารเย็นรับประทานที่ในตัวเมือง โดยมี
พี่ประทุม ชุ่มเพ็งพันธ์ (โบราณคดี รุ่น ๗ )
เป็นหัวหน้าหน่วยศิลปากร ที่ ๘
เป็นผู้พาไปกินอาหารพื้นเมืองแบบภาคใต้
มีผักเป็นเครื่องเคียงจำนวนมาก
น้ำพริกผักอร่อยมากที่สุด
พวกผู้หญิง อยากดูหนัง Love Story
เลยขอแวะดูกันทั้งหมด ๕ คน
ตีตั๋วราคา ๘ บาท แต่ไปดูที่นั่ง ๖ บาท
เพราะเก้าอี้เสริม และใกล้ส้วมเกินไป
รวมการเดินทางในครั้งนี้ ๒ วัน บนถนนเพชรเกษม สายเก่า
ระยะทางประมาณ ๑,๐๘๙ กม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น