Best Thai History

Amps

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ชีวประวัติตอน เมื่อจะเริ่มจริงจัง กับการจดบันทึก

อิทธิพลหลัก มาจาก อาจารย์ แสง มนวิทูร

๑ ม.ค. ๑๕
ความจริงแล้ว ฉันไม่เคยคิดเลยว่า
จะบันทึกชีวิตประจำวันของตัวเองไว้
เพราะได้ทำมาหลายครั้งหลายหนแล้วตั้งแต่สมัยเมื่อยังเด็ก ๆ

แต่ก็ดูเหมือน
สิ่งที่ถูกบันทึกลงไปนั้นเป็นเรื่องจำเจ หรือ
น่าเบื่อหน่ายจนเกินไปก็เป็นได้
เป็นสาเหตุให้ฉันต้องเลิกจดบันทึกความทรงจำ
ไปช่วงระยะเวลาที่นานหลายปีทีเดียว

จนกระทั่งมาในสมัยที่อยู่ ชั้น ม.ศ. ๓ – ๕
จึงเริ่มบันทึกใหม่
แต่คราวนี้ก็เลือกบันทึกแต่เรื่องราวที่สำคัญ ๆ
หรือ ประทับใจ เศร้าใจ อะไร ๆ ทำนองนั้น

ทั้งนี้ก็เป็นผลอันสืบเนื่องมาจากอารมณ์
และความรู้สึกในแต่ละยุคแต่ละสมัย

เมื่อหวนกลับไปอ่านดูบันทึกต่าง ๆ เหล่านั้นแล้ว
ก็ยังนึกขำในความเชย ๆ
ของตัวเองอยู่เสมอมา

แต่ก็นับว่าเป็นคุณประโยชน์แก่ชีวิตประการหนึ่ง คือ

เป็นเสมือนกระจกเงาที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเอง
เพื่อให้มองเห็นสภาพของตัวเองในอดีตได้อย่างชัดเจน

โดยมิต้องอาศัยใครมาช่วยเป็นกระจกเงาให้ตัวฉัน
มันเป็นเสมือนกระจกเงาแห่งอดีต
ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของชีวิตที่ผ่าน ๆ มา
ในอดีตได้เป็นอย่างดี

ครั้นต่อมา เมื่อเข้าเรียนในชั้นอุดมศึกษาแล้ว
ในตอนปีแรก
อาจจะเป็นเพราะการสนุกและตื่นเต้นในชีวิตใหม่
การบันทึกเรื่องราวใด ๆ
ก็ขาดตอน กระท่อนกระแท่น

เพราะความรู้สึกที่อยากเป็น
นักประพันธ์ นักโบราณคดี นักกวี สารพัด

แต่เมื่อสองปีแรก สอบตก ซ้ำชั้น
ความรู้สึกก็กลับมาหาหนังสืออีก
เริ่มบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ อีก
แต่ก็เป็นเรื่องราวสัพเพเหระ คือ

บันทึกไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่มีอารมณ์จะเขียน
และเป็นมาเรื่อย ๆ จนบัดนี้

แต่การบันทึกเรื่องราวตั้งแต่นี้ต่อไป
อาจจะเปลี่ยนแปลงกลับไปบ้าง
ซึ่งอาจเป็นการทดลอง หรือ
ความตั้งใจจริงก็ได้

ทั้งนี้ ถ้าหากเป็นไปโดยตลอดรอดฝั่ง
ก็ขอยกไว้ให้แก่

ท่านอาจารย์ แสง มนวิทูร

ที่เป็นประดุจแสงสว่างที่ส่องทางให้แก่ฉันโดยตรง
ในตอนที่ฉันไปเยี่ยมอาจารย์ที่บ้านและพูดคุยกัน

ฉันเห็นอาจารย์จดบันทึก
ซึ่งอาจจะเป็นแต่เพียงรายการ หรือ
กำหนดนัดหมายใส่สมุดเล่มเล็ก ๆ ไว้เป็นตั้ง ๆ

เล่มละปีถึงสองปี หรือ
ปีหนึ่งสองเล่ม ถึงสามเล่มบ้าง
แล้วแต่ความมากหรือน้อย

ส่วนเนื้อหาสาระภายในนั้น
ฉันไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็เป็นประโยชน์แก่เจ้าของ
คือ เมื่อจะเตือนความทรงจำของตัวเอง ว่า

ทำอะไรไว้บ้างในวันก่อน
ก็จะพลิกกลับไปดู เป็นอันรู้เรื่องกัน

ฉันเห็นดังนั้น
ก็เลยคิดจะเอาอย่างบ้าง
เคยปรารภกับเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง

เขา( พรชัย สุดลาภา (ปื๊ด) โบราณคดี รุ่น ๑๕ ...บอกว่า

“ผมก็บันทึกไว้ทุกวันแหละครับ เก็บไว้อ่านในตอนหลัง
มันสนุกดี”

ดังนั้นก็เลยยิ่งยินดีใหญ่
ฉันจึงตกลงใจ

เริ่มต้นตอนปีใหม่นี้ (๒๕๑๕ )เป็นวันแรก.
เปลี่ยนวิธีการบันทึกไปเรื่อย ๆ ตามเทคโนโลยี จนถึงทุกวันนี้








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น