ตอน : นั่งรถไฟไปเที่ยวเขาพระวิหาร (๓)
ช่วงที่ตั้งค่ายของ ตชด.ไทยอยู่เลยสนามบิน อเมริกัน มา
เป็นเนินสูงขึ้นไป ทางไม่ลาดชันนัก
ถัดจากค่าย ตชด.ไป เป็นลานหินกว้าง เรียบจนไกลตา
จนทำให้คิดว่า
จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ปราสาทหิน
จะนำเอาหินจากบริเวณนี้ไปก่อสร้าง
จะใช่หรือมิใช่
ก็เป็นแต่เพียงคาดเดาและคาดคะเนจากที่เห็นเท่านั้น
บริเวณลานหินนี้กว้างใหญ่มาก
ด้านหนึ่งเป็นทางลาดลง
ผ่านลำห้วยเล็ก ๆ ที่ไหลมาจากเขาพระวิหารไปทางทิศตะวันออก ?
อีกสองด้านเข้าใจว่าจะเป็นหน้าผาชัน
ลงไปในหุบเขาเสียด้านหนึ่ง
ส่วนอีกด้านหนึ่งคงจะลงไปต่อกับเขมร
ที่ตั้งของปราสาทเขาพระวิหาร
อยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก
โดยปรกติจะเขียวชอุ่มไปด้วยพืชไม้นานาพันธุ์
อากาศอบอุ่น เย็นสบายไม่แห้งแล้ง
ระหว่างเดินทางไป แรก ๆ รู้สึกหนาว
เพราะมีหมอกเมฆลอยต่ำ ๆ
แต่พอบ่าย เมฆหมอกเหล่านั้นก็ค่อย ๆ จางหายไป
และกลายเป็นแสงแรงกล้ามากขึ้น ๆ
จนนักเลงกล้องทั้งหลายพากันยิ้มอย่างมาความสุข
พวกเราทั้งหมดขึ้นเขาพระวิหาร เมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น. ตชด.กำหนดเขตให้พวกเราเดิน
เพราะถ้าหากเกินออกนอกลู่นอกทางไป
อาจมีกับระเบิดและเป็นอันตรายได้
พวกเขมรดูเป็นมิตรกับเราดี
ช่วยเหลือทุกอย่าง
แต่เขาขออย่างเดียว คือ
อย่าถ่ายสถานที่พักและครอบครัวของเขาเท่านั้น
ซึ่งพวกเราก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี
เราเดินข้ามลานหิน
ข้ามลำห้วยเส้นแบ่งแดนไปด้วยความคึกคัก
และด้วยความภูมิใจ
ที่ได้เป็นดารากันหลายต่อหลายคน
เมื่อ อาจารย์ วีรพันธุ์
เริ่มเดินกล้องถ่ายเป็นภาพยนตร์
หลังจากข้ามห้วยไปแล้ว
ตชด.ไทย เตือนพวกเราอีกครั้งให้ระมัดระวังตัว
อย่าเดินออกไปนอกเส้นทาง
มิเช่นนั้นแล้ว อาจจะกลายเป็นศพกลับไปได้
เพราะกับระเบิดที่ฝังกระจายอยู่แถว ๆ นั้น
ถึงบริเวณเชิงเขาทางขึ้นสู่ปราสาทหินเขาพระวิหาร
มีป้ายเป็นเครื่องหมายปักไว้สองข้างทาง
บ่งบอกถึงเขตชายแดน ไทย -เขมร
พวกเราตื่นเต้นกับสิงห์ที่อยู่ตีนบันได
เพราะสิ่งแรกที่เราเห็นบนเขาพระวิหาร
ซึ่งความจริงก็ไม่ได้สวยงามอะไรเลย
เป็นสิงห์แบบบาปวน
บันไดช่วงนี้มีกี่ขั้นไม่ทราบ เพราะไม่ได้นับ
พอถ่ายรูปสิงห์เสร็จ ก็รีบวิ่งขึ้นไปทันที
ยังไม่ทันจะถึงที่สุดของบันได ก็ยืนหอบแฮก ๆ เสียแล้ว
เห็นมีผู้หญิงที่เดินขึ้นมาก่อน
นั่งพักกันตามรายทางบ้างประปราย
ซึ่งก็เป็นธรรมดาสำหรับสตรีสูงอายุ
ซึ่งเป็นลูกทัวร์ของท่านอาจารย์
ตอนขาขึ้นถ่ายรูปไม่ค่อยได้เพราะย้อนแสง
ขอบคุณภาพประกอบ จาก Google
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น