Best Thai History

Amps

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วัตรปฏิบัติ บางวัน ในการเรียนโบราณคดี รอบสอง ตอน : นั่งรถไฟไปเที่ยวเขาพระวิหาร (๒)

ตอน : นั่งรถไฟไปเที่ยวเขาพระวิหาร (๒)

วันเสาร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๕

พวกนั้น( ผ้าป่าสุรินทร์) ไปกันหมดแล้ว
พวกเราขวนขวายหาที่หลับนอนได้อีกหลายที่
และ ระหว่างนั้น ฝนตกมาตลอดทาง
ทำให้อากาศชุ่มช่ำและสบายดี
ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินพอดี พอที่จะหลับไปได้สักงีบหนึ่ง

ประมาณ ๐๓.๓๐ น.
รถไฟก็เทียบชานชาลาจังหวัดศรีสะเกษ
พวกเราพากันเดินทางตรงไปที่โรงแรมไทยเสริมไทย
ซึ่งอยู่สุดถนนตรงหน้าสถานีรถไฟพอดี

พวกเราไปเรียกบ๋อยโรงแรมอยู่นานพอสมควร
กว่าจะลุกขึ้นมาเปิดประตูโรงแรมให้เข้าไป
ท่านอาจารย์สั่งจองห้องไว้ ๒ ห้อง
และอนุญาตให้พวกเราใช้ห้องเข้าไปพักผ่อนนอนเล่นได้
จนกว่า คณะขงท่านจะเดินทางมาถึง ประมาณ ๐๕.๓๐ น.

แต่พวกเราทั้งหมดมีตั้ง ๑๐ คน
เลยต้องขอเปิดห้องเพิ่มอีก ๑ ห้อง รวมเป็น ๓ ห้อง
ให้ผู้หญิงใช้ห้องหนึ่ง ผู้ชายใช้ ๒ ห้อง

แต่ห้องเบอร์ ๓๑๓ นั้นเป็นห้องที่แย่ที่สุด
เพราะเหม็นเหลือเกิน
๒ ห้องพอใช้ได้ สบู่ก็ไม่มี น้ำก็ไม่ค่อยไหล ห้องก็เหม็น กุญแจเสียปิดไม่ได้ แย่เต็มที

ข้าพเจ้าเอนนอนไปงีบหนึ่ง
แล้วก็ตาลีตาเหลือตื่นขึ้นมาประมาณ ๐๕.๔๐ น.
เพื่อลงไปรอรับเสด็จท่านอาจารย์กับคณะที่มาด้วย

ครั้งนี้ ท่านไม่ได้จองโรงแรมไว้ให้ใครทั้งสิ้น
โดยให้จองไว้ชั่วคราวเพียงให้ล้างหน้า
อาบน้ำทำกิจจำเป็นชั่วคราวเท่านั้น

ตอนแรก มีฝรั่ง ๒ - ๓ คน เข้ามาหาห้องพัก
แต่ไม่มีว่างเลย
เพราะ ๓ ห้องที่เราพักเป็นชุดสุดท้ายที่เหลือ

หลังจากนั้นไม่นานคณะของท่านอาจารย์ก็มาถึง
ข้าพเจ้าจึงพาคณะขึ้นไปทำกิจวัตรของแต่ละคนตามอัธยาศัย

เสร็จภารกิจที่โรงแรมแล้ว
ออกมาหาซื้ออาหารห่อเตรียมขึ้นไปกินบนเขาพระวิหาร

พวกเพื่อน ๆ ที่มาด้วยออกไปหมดแล้ว
ฉันนั่งรอ พี่แอ๊ว (อัญชนา) หัวหิน(มยุรี) และ

คุณหญิง คุณชาย (ธิดาและ โอรส ท่านอาจารย์ ) อยู่พักหนึ่ง

ก็เดินกลับไปทางสถานี
จะไปที่คลาดนัดตอนเช้า
เพื่อหาซื้อไก่ย่างจะขึ้นไปกินบนเขา แต่หาไม่เจอ

ต้องเดินข้ามทางรถไฟลัดเลาะไปข้างทาง
ผ่านกองมูลคนเป็นระยะ ๆ
ประกอบกับทางที่ค่อนข้างเปียก เพราะฝนตกเมื่อคืน
จึงสร้างความลำบากในการเดินทาง
กว่าจะถึงตลาดพอใช้ได้ทีเดียว

ตลาดนัดใหญ่โตพอฐานะ
เป็นตลาดกลางแจ้ง
มีอาหารจำพวกที่จำเป็นในการประกอบอาหารเป็นส่วนใหญ่

พูดง่าย ๆ ก็คือ ตลาดสดธรรมดานั่นเอง
อาหารที่ตั้งขายจัดเป็นแถวเป็นแนวน่าเดินชม
แต่แฉะด้วยน้ำฝนเมื่อคืน ดังกล่าว
ทำให้เสียบรรยากาศไปมาก

ผู้คนมากมายพากันเลือกหาซื้อวัตถุดิบ
ไปประกอบอาหารในตอนเช้า

ในขณะที่พวกเราเที่ยวเซาะหาอาหาร
เพื่อเตรียมไปรับประทานมื้อกลางวัน

จุดมุ่งหมายที่สำคัญ คือ "ไก่ทอด"
เพราะได้ข่าววามีรสชาติเอร็ดอร่อยมากนัก
ตั้งแต่ก่อนที่จะมาถึงเมืองศรีสะเกษแล้ว

วาสนาจะไม่ได้กินไก่
เพราะขายดีจนหมด แถมมีไม่พอขาย
ต้องพากันเดินคอตกออกไปหาอาหารอย่างอื่นแทน

ข้าพเจ้าต้องนั่งรถกลับไปที่โรงแรม
เพื่อเอายาให้คุณหญิงเล็ก
และซื้อช้อนแล้วกลับมาที่เดิม

สามล้อที่นี้ ก็ฉลาดไม่ใช่เล่น
เห็นคนแปลกหน้ามา
เวลาเมื่อจะจ่ายค่ารถ ถามราคา
แกก็จะบอกว่า แล้วแต่จะให้

คนกรุงเทพฯ ไม่รู้อะไร
ก็ให้ไปอย่างน้อย ๓ บาท / ๑ เที่ยว เป็นต้น
ส่วนข้าพเจ้าโดนไป-กลับ ๕ บาท
แต่ได้ยินว่า บางคนให้ไป ๑๐ บาท แล้ว
สามล้อยังขออีก ๕ บาท

ซึ่งความจริงราคาค่าโดยสาร เพียงคนละ ๑ บาท เท่านั้น

เกิดความวุ่นวายเล็กน้อยในขณะจัดรถเดินทาง
การเดินทางครั้งนี้ ดูยิ่งใหญ่มิใช่น้อย
เพราะมีรถบัส ๕ คัน
รถทูต ๑ คัน
รถผู้ว่าราชการจังหวัด ๑ คัน
รถศึกษาธิการจังหวัด ๑ คัน
รถ ตำรวจตระเวนชายแดน ปิดหัวท้ายขบวนอีก ๒ คัน
รวมทั้งหมดเป็น ๑๐ คัน

ข้าพเจ้านั่งรถคันหน้า ของ ตชด.
กับ อาจารย์ วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์
พิเศษ สังขสุวรรณ และสถาพร ขวัญยืน
เป็นผู้ช่วยกองถ่ายภาพยนตร์
ของอาจารย์ วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์ (โบราณคดี รุ่น ๘ )

ท่าทางน่าตื่นเต้นเหมือนกัน ที่ได้นั่งรถตำรวจ
แต่เกรงจะถูกพวก ผกค.จะแอบเก็บเสียก่อนเท่านั้น

รถคันอื่น ๆ ก็คิดไปตามเรื่อง สนุก ๆ
ตามที่เคยได้คิดได้ฟังข่าว เสมอ ๆ
ถึงวิธีการของพวก ผกค. ที่ดักทำร้ายตำรวจ

ประกอบกับระยะนั้น
บริเวณเขาพระวิหารมีเรื่องยุ่งยากเสมอ ๆ
เกี่ยวกับการรุกรานของ ผกค.
ยิ่งทำให้ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา

แต่ความจริง พวกที่น่าตื่นเต้นมากกว่าชุดเรา คือ
พวกที่มาครั้งที่แล้ว เพราะตอนนั้นยังเป็นข่าวสด ๆ อยู่

การเดินทางปรกติและปลอดภัย
ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอดทาง
มีหมอกลงมาก อากาศก็หนาวเย็น

พวกเล่นกล้องบ่นกันอุบ
เพราะกลัวจะไม่ได้ถ่ายรูปให้สมกับความอยาก
และสู้เสี่ยงภยันตรายมาเที่ยว

ระหว่างทาง พบรถชนกัน
ท่าทางจะเกิดมานานแล้ว
ดูสภาพน่าจะมีคนตาย
แต่ ตชด.ว่า ไม่มีใครเป็นอันตรายก็เลยเฉย ๆ กันไป

พอรถเลยเขตที่ตั้งอำเภอกัณฑลักษณ์
เป็นถนนลูกรังและป่าโปร่ง
เพิ่มความตื่นเต้นขึ้นอีก เมื่อเห็นสภาพเช่นนั้น
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ
และ กว่าจะถึงเขาพระวิหารได้
ก็เล่นเอาสะบักสะบอมกันพอสมควร

ส่วนข้าพเจ้านั้น ดูแล้ว ไม่น่าจะไม่มีอะไรเป็นที่น่าวิตกนัก
เพราะรู้อยู่ค่อนข้างจะเต็มอก ว่า
พวก ผกค.คงไม่มารุกรานแน่ ๆ

แต่ก็ยังสนุกสนานไปกับพวกที่มารถบัสใหญ่
เพราะรถค่อนข้างวะวิ่งได้ลำบากด้วยถนนลื่น
และเป็นหล่มหลุมบ่อมาก ด้วยเหตุที่ฝนตกเมื่อคืน

พวกเราทั้งหมดไปถึงเขาพระวิหารอย่างกระท่อนกระแท่น
ด้วย บางคนก็เดิน บางคนก็วิ่ง
และบางคนก็ขออยู่บนรถ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

ตชด.ชี้ให้ดูสถานที่เคยตกเป็นข่าวหนังสือพิมพ์
ที่เอาคนมาฆ่าทิ้งตรงบริเวณสนามบินที่อเมริกา มาสร้างเอาไว้

แต่ก็ไม่ได้แวะดู
เลยไปยังที่ตั้งของพวก ตชด.
ซึ่งเป็นเขตต่อแดนระหว่างเขมรกับไทย

แวะพักกินข้าวในแค้มป์ ตชด.ไทย
มีร้านอาหารสำหรับ ตชด.ด้วย ราคาย่อยเยาเป็นปรกติ

จากค่ายของ ตชด.ไทย
มองเห็นบันไดนาคชั้นแรกของปราสาทเขาพระวิหาร
ได้อย่างชัดเจน
ด้วยระยะทางประมาณ ๑ กม.
แต่เนื่องจากปราสาทอยู่บนที่สูง
จึงทำให้กลมกลืนไปกับสภาพภูมิประเทศ
จนดูเห็นไม่ชัดเจน หากไม่สังเกตและพิจารณาให้ดี





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น