ตอน : นั่งรถไฟไปเที่ยวเขาพระวิหาร (๔)
นาคที่บันไดมีหลายเศียร
แต่เห็นได้ชัดว้าเป็นนาคแบบบาปวน
ช่วงต่อจากนาคไปเป็นทางราบเดินต่อไปยังบันไดขั้นที่๒
ซึ่งมีพลับพลาหลังเล็ก ๆ
ไม่ใหญ่นักเป็น หลังแรก
สภาพหักพังเสียหายเป็นส่วนมาก
แต่ก็สวยงามนักในสภาพแห่งความปรักหักพังนั้น
ลวดลายที่สลักก็งามวิจิตร ละเอียดอ่อนเช่นกัน
ดูและถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน
พวกทหารเขมรให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นดีจริง
ทหารเหล่านี้
หลายคนที่พูดภาษาไทยได้ ฟังได้
บางคนฟังพอรู้เรื่อง แต่พูดไม่ได้
ภาษาที่พวกเขาถนัดคือ ภาษาเขมร และ
รองลงมาก็คือ ภาษาฝรั่งเศส
เพราะประเทศเขาเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน
นานพอสมควร
ส่วนภาษาอังกฤษ ก็พอพูดได้บ้าง
ถัดจากพลับพลาชั้นแรก
โคปุระชั้นที่ ๑
มีทางเดินไปยังโคปุระหลังที่ ๒ หรือ
ตัวอาคารชั้นที่ ๒ ของปราสาทเขาพระวิหาร
ทางเดินเป็นหินปูลาดไปโดยตลอด
หินที่ใช้ก็คงใช้หินที่ได้จากสองข้างทางนั้นเอง
เพราะดูราบเรียบเหมือนถูกสกัดเอามาทำ
สองข้างทางเดินกว้างประมาณ ๔ - ๕ เมตร
มีเสานางเรียงประดับเป็นระยะ ๆ ไป
นอกจากนั้นสภาพธรรมชาติของต้นไม้
ยังช่วยส่งเสริมให้เส้นทางอันยาวนั้นร่มรื่นขึ้นอีก
เมื่อใกล้จะถึงโคปุระชั้นที่ ๒
มีสระน้ำใหญ่อยู่ทางฝั่งซ้าย
ทำเป็นชั้น ๆ ขั้นบันไดลงไปโดยรอบของสระ
น้ำน้อยติดก้นสระ
ทหารเขมรมักจะมาอาศัยน้ำจากในบ่อนี้ไปใช้ในกิจวัตรประจำวัน
บันไดโคปุระชั้นนี้ค่อนข้างชัน
และปีนยากกว่าชั้นที่ผ่าน ๆมา
เพราะชำรุดและเสียหายมากกว่า
ที่เบื้องหน้าคือ โคปุระชั้นที่ ๓
ซึ่งเป็นโคปุระก่อนจะผ่านไปถึงปราสาทหลังประธาน
มีลวดลายสลักงามวิจิตรนัก
ณ ปราสาทหลังนี้
มีหน้าบันและทับหลังที่สวยงามอยู่ด้านหนึ่ง
อาจกล่าวได้ว่าเป็น
ชิ้นเอกของปราสาทเขาพระวิหาร
ก็ว่าได้
ท่านอาจารย์ มจ.สุภัทรดิศ ดิศกุล
ทรงอธิบายนานมาก
มิใช่ว่าจะงามเพียงหน้าบันนั้นเมื่อไหร่
ทุกส่วนที่ถูกแกะสลักขึ้นมามีความงามไปเสียทั้งหมด
ภาพสลักของปราสาทหลังนี้
เป็นเรื่องราวในศาสนาฮินดู
เปรียบประดุจปราสาทเขาพระวิหาร คือ
เขาไกรลาศ
กลุ่มปราสาทหลังกลางไม่เห็นอะไรมาก
เพราะเสียหายหินปราสาทถล่มลงมา
กองเป็นภูเขาเล็ก ๆ อีกลูกหนึ่ง
จากโคปุระ ๒ ถึง โคปุระ ๑
ปูลาดด้วยหินเป็นทางยาว
เหมือน โคปุระ ๑ - ๒
ผิดแต่ว่าสองข้างทางร่มรื่น
เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ๆ
และที่ห่างออกไปก็เป็นป่าไม้สูง ไม่หนาแน่นนัก
ทางด้านขวาตอนขึ้นไปเป็นที่พักของทหารเขมร
ตั้งเรียงรายตลอดทาง
อย่ามองเข้าไปนาน เพราะเป็นสถานที่ค่ายทหาร
ห้ามถ่ายรูป
เห็นแต่มี ปืนต่อสู่อากาศยาน (ปตอ.)
ซุ่มอยู่ด้วย....ไม่รู้ใช้ได้รึเปล่า
ดูปราสาทเขาพระวิหารเสร็จ
กลับลงมาจังหวัดศรีสะเกษ
รอขึ้นรถไฟกลับ หัวลำโพง
เพราะต้องกลับไปเตรียมตัว
เดินทางลงใต้...ต่อ
ในวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๕
ขอบคุณ ภาพประกอบจาก Google
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น