อัตชีวประวัติปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์ ) ขุดวัดแรกในพระนครศรีอยุธยา
ตอน : คลองปท่าคูจาม กับ ผี
วันอาทิตย์ เป็นวันหยุด
อ.คงเดช (พี่ขุน) ก็จะพานักศึกษากลุ่มที่สมัครใจ
จะไปสำรวจวัด แทนการกลับบ้าน หรือจะไปพักผ่อนอย่างอื่น ตามอัธยาศัย
ข้าพเจ้าเลือกจะตาม พี่ขุนไปดูวัดวาอารามมากกว่า
อาทิตย์แรก (วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๑)
คณะเราออกเดินทางตั้งแต่เช้าไปวัดพุทไธสวรรย์
เข้าคลองปท่าคูจาม วัดท่าหอย วัดเตว็จ วัดเจ้าฟ้า วัดพญากง
วัดเดียวในกลุ่มนี้ คือ วัดพุทไธสวรรย์
ที่ยังมีพระสงฆ์อยู่
นอกนั้น เป็นวัดร้าง และ อยู่ในป่ารกชัฏ
สนุกและตื่นเต้น กับการเดินทาง
เข้าไปในเขตของชาวมุสลิม ทั้งคลอง
ที่ยังใช้ชีวิตอยู่ตามแบบของเขา
ชุมชนชาวมุสลิม ในคลองปท่าคูจาม นี้
น่าจะอยู่ติดต่อสืบเนื่องกันมา
ตั้งแต่สมัยสร้างกรุงศรีอยุธยา
ภายหลังสียกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ.๒๓๑๐) แล้ว
คงจะมีชุมชนมุสลิมเก่ากลับคืนมา
และ หรือ มีการตั้งถิ่นฐานของชุมชนมุสลิมใหม่
ที่มาจาก เมืองอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก
เมืองปทาคูจาม มาจากคำว่า
ประทาย,บันทาย (เขมร បន្ទាយ),ป้อม,ค่าย + คู + จาม
แปลว่า ค่ายคูที่อยู่ของพวก(แขก)จาม
ต่อมา ภาษา กร่อนลงไปเรื่อย ๆ เป็น ปท่าคูจาย ประจาม
ในพระราชพงศาวดารพระนครศรีอยุธยา ฉบับหลวงประเสริฐฯ กล่าว ว่า
ศักราช ๗๗๑ ฉลูศก (พ.ศ. ๑๙๕๒)
สมเด็จพระรามเจ้ามีความพิโรธแก่เจ้าเสนาบดี แล
ท่านให้กุมเจ้าเสนาบดี ๆ หนีรอด
แลข้ามไปอยู่ฟากปท่าคูจาม นั้น
แลเจ้าเสนาบดีจึงให้ไปเชิญ
สมเด็จพระอินทราชาเจ้ามาแต่
เมืองสุพรรณบุรี ว่าจะยกเข้ามาเอาพระนครศรีอยุธยาถวาย
ครั้นแลสมเด็จพระอินทราชาเจ้าเสด็จมาเถิงไซร้
จึงเจ้าเสนาบดียกพลเข้าไปปล้นเอาพระนครศรีอยุธยาได้
จึงเชิญสมเด็จพระอินทราชาเจ้าขึ้นเสวยราชสมบัติ
แลท่านจึงให้สมเด็จพระยารามเจ้าไปกินเมือง
"ปท่าคูจาม"
คณะเราเดินลุยไปตามป่ารก และดงหมามุ่ย
จนเย็น จึงกลับเข้าที่พัก
พอ ๆ กับ พวกเพื่อนและพี่คนอื่น ๆ ที่ ไม่ได้ไปลุยป่า
และพากันไปเที่ยวตามสถานที่ที่ตัวเองชอบ
ณ ที่นี้ จำจะต้องกล่าวถึงบุคคล
ที่ยังมีตัวตนเหลืออยู่ในขณะเขียนบันทึกนี้ ๑ คน คือ
อดีต ผอ.สถาพร ขวัญยืน
ผอ.สถาพร ขวัญยืน เป็นคู่หูไปเที่ยวกันเป็นประจำ
กับ ร.ท.พิเศษ สังขสุวรรณ
วันหยุด ๒ คนนี้ ออกไปเที่ยวบึงพระราม
และวัดพระมงคลบพิตร
เดินได้ทั้งวัน โดย พูดคุยภาษาที่คนฟังไม่รู้เรื่อง
เพราะแสร้งทำตัวเป็นคนพม่า มาเที่ยวอยุธยา
พิเศษ (ต้า) ไปซื้อหน้ากากมา ๑ อัน
จากร้านหน้าพระมงคลบพิตร
เมื่อกลับมาถึงที่พัก กินข้าว ดื่มน้ำเปลี่ยนนิสัยกันพอสมควรแล้ว คุยกันสนุกสนานอยู่ที่ห้องพัก
สถาพรจะนอนหลับหรือเปล่าไม่รู้
แต่พรรคพวกเกิดสนุกขึ้นมา โดยเฉพาะ
กระทาชายนายต้า พิเศษ
เอาหน้ากากผี ที่ซื้อมา คลอบหน้าให้
พร้อมทั้งดึงเอาผ้าปูที่นอนสีขาวห่อหุ้มตัว สถาพร เพื่อนรัก
จนกลายเป็นเหมือนคนตายที่ถูกห่อผ้าตราสังแล้ว
สนุกกันใหญ่ ถ่ายรูปกับพรึบพรับ
ตั้งแต่นั้นมา สถาพร จึงมี ชื่อใหม่อีกชื่อ ว่า “ผี”
และเรียกกันมาจนถึงปัจจุบัน ว่า "ผอออ ผี"
ทั้งๆ ที่ “พิเศษ”คนสร้างเรื่อง
กลายเป็น “ผี จริง ๆ ไปแล้ว
ผอ.ผี,ผอ.ต๋อย,ร.ท.พิเศษ(ต้า)2515
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น