อัตชีวประวัติปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์ )
ขุดวัดแรกในพระนครศรีอยุธยา ตอน : เจ้าของตามมาส่ง.
วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๑
พี่ขุน นำนักศึกษาออกไปสำรวจวัดกันอีก
วันนี้ ท่านอาจารย์ ม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล เสด็จด้วย
เนื่องจากมีคนแจ้งให้ทราบว่า ที่ "โรงสีไทยมงคล"
ใต้ วัดบางกระจะ ไปไม่ไกลนัก
ได้เก็บรักษาพระพุทธรูปพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี
ที่ขุดพบในวัดร้างแห่งหนึ่งใกล้ ๆ โรงสีไทยมงคล
จึงติดต่อขอเข้าไปดู
ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของโรงสีเป็นอย่างดี
พวกเราได้ขึ้นไปดูที่ห้องชั้นบนสุดของโรงสี
และเห็นว่า เป็นพระพุทธรูป ปางเสด็จเหนือพนัสบดี ลงจากดาวดึงส์พร้อมพระอินทร์และพระพรหม หินเขียว
ขนาดพอ ๆ กับที่พบจากเมืองศรีเทพ
และที่อื่น ๆ อีกหลายแห่ง
เจ้าของยินยอมให้
อาจารย์ พิบูล ศุภกิจวิเลขะการ
ถ่ายรูป เพื่อการศึกษาของคณะโบราณคดี
แต่ไม่ยกให้เป็นของหลวง ว่าจะเก็บไว้บูชาเอง
จากการสอบถาม ได้ความว่า
พบในที่เดียวกันกับที่พบ
ชิ้นส่วนของพระพุทธรูปศิลาขาวนั่งห้อยพระบาท
คือ "วัดพญากง"
ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก จึงพากันเดินต่อไปดู "วัดพระยากง"
ที่พบพระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาท
ยังมีสภาพเป็นโคกวัดร้าง
และมีร่องรอยของการขุดกระจายทั่วไปทั้งเนินวัด
จากนั้นเดินกลับมาเหมาเรือลำหนึ่ง
วิ่งทวนน้ำขึ้นไป "วัดไชยวัฒนาราม"
เดินลุยป่าหมามุ่ย เข้าไปในบริเวณเมรุทิศเมรุราย
ตามผนังระเบียงคดมีต้นดีปรีเกาะเต็มไปหมด
ท่านอาจารย์ รับสั่งให้ข้าพเจ้าหาเศียรพระพุทธรูปปูนปั้น
ที่หักตกหล่นอยู่สักองค์หนึ่ง
จะเอาไปเป็นอุปกรณ์การเรียนการสอน
เรื่องพุทธศิลปะสมัยพระเจ้าปราสาททอง
ข้าพเจ้าเลาะลุยดงหมามุ่ยดูไปรอบ ๆ
จนไปถึงเมรุด้านทิศเหนือ
พบเศียรพระพุทธรูปปูนปั้น องค์หนึ่ง
พระพักตร์ส่วนที่ฉาบปูนและลงรักกะเทาะแตกครึ่ง
เห็นปูนที่ขึ้นเป็นแบบโล้น ๆ อยู่ภายใน
ไม่มีส่วนที่เป็นพระศก
จึงอาราธนาเก็บใส่เป้ ออกมา
แล้วทูลท่านอาจารย์ ว่า
"มีพบที่ดีที่สุดเพียงองค์นี้องค์เดียว"
ระหว่างที่ทูลท่านอาจารย์ พี่ช้าง ขรรค์ชัย บุนปาน
ซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ นั้นด้วย
สัพยอกข้าพเจ้าว่า
“เฮ้ยย..เอาของเขาไป ขอรึเปล่า ระวังเจ้าเขาหวงนะ”
ข้าพเจ้าก็ตอบกับพี่ช้าง ขรรค์ชัย ว่า
“ไม่เป็นไรหรอก ผมขอเรียบร้อยแล้ว”
ดูวัดไชยวัฒนาราม พอสมควรแล้ว
เดินไปถึง "วัดลอดช่อง"
เลยไปอีกนิดก็เจอ
คันดินเหมือนเป็นถนนโบราณ
ตรงไป "วัดวรเชษฐ์ (วัดประเชด)"
ที่มีพระปรางค์องค์ใหญ่
แต่ย่อมกว่าวัดไชยวัฒนาราม อยู่ที่กลางทุ่ง
ดูเสร็จแล้วเดินตัดทุ่งมา"วัดกษัตรา" ลงเรือข้ามกลับมาขึ้นฝั่งตรงโรงเหล้า แล้วเดินตัดโรงเหล้า
กลับถึงที่พักเย็น ๑๗ น.พอดี
คืนนี้ ท่านอาจารย์ประทับบรรทมอยู่ด้วยกับพวกนักศึกษา
ข้าพเจ้า นอนเตียงสองเตียงคู่กันกับพี่ช้าง ขรรค์ชัย
เศียรพระที่นำมาจากวัดไชยวัฒนาราม
ก็ยังอยู้ในเป้และวางไว้บนหลังตู้เหนือหัวนอน
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จนประมาณ ตี ๒ เศษ
ข้าพเจ้าตกใจตื่น
มีบางสิ่งบางอย่างทำให้ข้าพเจ้าหันไปมอง
คนที่นอนอยู่ใกล้ ๆ คือ พี่ช้าง ขรรค์ชัย
แสงสว่างจากพระจันทร์ ขึ้น ๒ ค่ำ
สว่างผ่านช่องหน้าต่างมาจับที่ใบหน้าของพี่ช้าง
แต่คุณพระช่วย!!!
ใบหน้าที่เห็น นั้น ไม่ได้เป็นหน้าพี่ช้าง
แต่เป็นหน้าใครไม่รู้
หน้าดำ ๆ ตาถล่นโปนออกมาข้างหนึ่ง และ
หันหน้ามาแสยะยิ้มให้กับข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าตกใจจนเกือบตะโกนออกมา
แต่ด้วยความยังพอมีสติ อยู่บ้าง
จึงเบือนหน้าหนีกลับมา
สวดภาวนาพระคาถา
อย่าว่า แต่จะสวด “กรณียสูตร”
ที่พ่อพร่ำสอนไว้ให้สวดเมื่อถึงคราวจำเป็น
เมื่อครั้งก่อนจะมาเรียนโบราณคดี
ซึ่งยาวมาก
สวดแค่ “นะโม ๓ จบ” ก็ยังยาก
สักพักใหญ่ เมื่อตั้งจิตใจได้เป็นปรกติ
แล้วหันกลับไปมองอีกครั้งหนึ่ง
ก็เห็น "พี่ช้าง ขรรค์ชัย"
นอนหงายหลับสบายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผู้ใดก็ตามที่ดูแลรักษาพระพุทธรูปองค์นั้น
คงอยากจะมาทักทายให้รู้ว่า
“เออ...ข้าเพียงตามมาส่งแค่นั้น..
ไม่ได้คิดจะทำให้เอ็งตกใจกระไรดอก....อิ อิ”
เส้นทางสำรวจโบราณสถาน ช่วงเช้า วันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๑
พระพุทธรูปปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ ...คล้ายกับที่พบจากวัดพญากง อย. (เปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น) ภาพจาก Google
เจดีย์ "วัดพญากง" อย.ที่ยังเหลือ
ผังวัดพญากง และสถานที่ พบชิ้นส่วนของพระพุทธรูปศิลาขาว สมัยทวาราวดี อายุ พุทธศตวรรษที่ ๑๑ - ๑๓
ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ใน พช.เจ้าสามพระยา และสามารถนำมาต่อกับ ส่วนฐาน พระพุทธรูป ซึ่งอยู่ที่วัดพระปฐมเจดีย์ ได้พอดี
เริ่มมีสำนักวิปัสสนาเข้าไปตั้ง ที่วัด พญากง แล้ว อนาคต น่าเป็นห่วงกรมศิลปากร
พระพุทธรูปศิลาขาว สมัยทวาราวดี อายุ พุทธศตวรรษที่ ๑๑ - ๑๓
ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ใน พช.เจ้าสามพระยา
วัดขุนพรหม ที่นำรูปพระศิลาขวมาประดิษฐานไว้แต่เดิม ก่อนจะถูกโจรกรรมไปและตามกลับคืนมาได้...ที่เห็นในภาพเป็นรูปจำลองทั้ง ๒ องค์ — กับ ปิยะศักดิ์ สำราญใจ
เส้นทางสำรวจวัดต่าง ๆ ช่วงบ่ายของวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๑
ฐานพระพุทธรูปในเมรุทิศด้านทิศเหนือ วัดไชยวัฒนาราม อย. พ.ศ.๒๕๓๔
เมรุทิศตะวันตกเฉียงเหนือ วัดไชยวัฒนาราม เศียรพระพุทธรูป พบบริเวณระเบียงช่วงนี้
เมรุทิศเหนือ และระเบียงวัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม ปฏิพัฒน์ ถ่ายจากพระตำหนักสิริยาลัย พ.ศ.๒๕๓๕
วัดวรเชษฐ์ (นอก) (วัดประเชด) อย.
วัดกษัตราธิราช อย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น