Best Thai History

Amps

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2563

อัตชีวประวัติปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์ ) ตอน ๘

ขึ้นเมืองเหนือ ครั้งแรกในชีวิต

ตอน ๘ : เวียงพระธาตุลำปางหลวง

เวียงพระธาตุลำปางหลวง
เป็นเมืองโบราณขนาดเล็กรูปเหลี่ยมผสมธรรมชาติ
มีกำแพงดินล้อมรอบ

ด้านทิศตะวันตกและทิศใต้
ยังคงเหลือแนวคันดินและคูน้ำ บ้างเป็นช่วง ๆ
ตั้งแต่ประตูหนองงู ประตูลับแล
มาจนถึงประตูดอกไม้ทางด้านใต้

ส่วนด้านตะวันออกและด้านทิศเหนือ
มีคันดิน เลียบไปตามลำน้ำธรรมชาติ
ซึ่งถูกไถเกลื่อนไปหมด

ภายในตัวเมือง
ส่วนที่เป็นเนินสูง เป็นที่ตั้งของศาสนสถานสำคัญของเมืองนี้ คือ
“พระธาตุลำปางหลวง”

ตามตำนานเรียกเมืองนี้ ว่า
“ ลัมภะกัปปะนคร”
เป็นเมืองสมัย หริภุญชัย ยังรุ่งเรือง
(ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓ - ๑๖ )

มีประตูเมืองหลายประตู
แต่เท่าที่เหลือ และมีชื่อเรียกเพียง ๓ ประตู คือ
"ประตูหนองงู"ทางด้านตะวันตก
"ประตูลับแล" ทางมุมด้านใต้ ตอนที่กำแพงเมืองด้านตะวันตกและใต้มาต่อกัน
และ "ประตูดอกไม้" ทางด้านใต้ ซึ่งเป็นทางเข้าสู่บริเวณพระธาตุลำปางหลวง

โบราณสถานภายในเมือง นอกจาก
"พระธาตุลำปางหลวง" แล้ว
ยังมีบ่อน้ำกลางเมือง เรียกว่า “บ่อน้ำเลี้ยง”
ซึ่งเป็นบ่อน้ำโบราณ
น้ำในบ่อเป็นน้ำจากตาน้ำใต้ดิน
บริเวณขอบบ่อ ชาวบ้านสร้างกรอบไม้กรุไว้ และ
ที่กรอบไม้ มีรอยสึกที่เกิดจากการใช้เชือกสาวถังน้ำจากบ่ออยู่เต็มไปหมด
แสดงให้เห็นว่า ชาวบ้านใช้น้ำในบ่อนี้มาแล้วเป็นเวลานาน

ชาวบ้านที่อยู่ในเมือง ยังดูเป็นชนบทโดยแท้
ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงเท่าใด
เมื่อเปรียบเทียบกับบริเวณอื่น ๆ ในอำเภอเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา
เมื่อมีการย้ายเมืองใหม่ไปตั้งที่ริมแม่น้ำวังฝั่งตะวันตก
เรียกชื่อ เมืองใหม่ว่า “เมืองเขลางค์” ( เมืองรูปหอยสังข์ )
ใช้เป็นศูนย์กลางการปกครอง แล้ว

เมือง “ลัมภะกัปปะนคร” ก็ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็น
“เวียงพระธาตุลำปางหลวง”
บูรณะปรับเปลี่ยนรูปแบบพระธาตุ สืบเนื่องต่อกันมา
จนดังที่เห็นในปัจจุบัน









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น