Best Thai History

Amps

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2563

อัตชีวประวัติปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์ ) ตอน ๙

อัตชีวประวัติปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์ ) ตอน ๙

ขึ้นเมืองเหนือ ครั้งแรกในชีวิต

ตอน ๙ : วัดบ้านหล่อม นอกเวียงพระธาตุลำปางหลวง

การสำรวจเวียงพระธาตุในครั้งนั้น
( ๑๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๐ )
คุณศักดิ์ รัตนชัย พาคณะเรา ออกประตูดอกไม้
ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ ๒ ก.ม.
ถึงหมู่บ้านหล่อม มีร่องน้ำไหลผ่านจากทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผ่านไปทางทิศใต้
ชาวบ้านเรียกว่า “ลำแม่เอี้ยง"

เพื่อพาไปดูมณฑปโบราณหลังหนึ่ง
ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด ๔.๕๐ เมตร
มีพระประธานปูนปั้นอยู่ในมณฑป พระพักตรชำรุดจนดูไม่ออกว่าเป็นยุคสมัยใด

พี่พิเศษ เจียจันทร์พงษ์
พิจารณาจากโครงสร้างของมณฑป
และวิธีการเรียงอิฐซุ้ม ที่ค่อย ๆ เหลื่อมอิฐขึ้นไปที่ละไม่มาก เพื่อให้น้ำหนักบนของซุ้มถ่ายเทลงไปทางด้านข้างได้
น้ำหนักไม่กดลงตรง ๆ
เป็นกรรมวิธี เหมือนกับการเรียงศิลาแลงของซุ้มวัดกู่กุด
ที่มีมาก่อน การเรียงอิฐ ด้วยวิธีทำเป็นซุ้มโค้งเกือกม้า
ซึ่งเป็นกรรมวิธีการเรียงอิฐแบบล้านนา แล้ว

ดังนั้น มณฑปและพระพุทธรูปในมณฑป
อาจมีอายุร่วมสมัยกับ "ลัมภะกัปปะนคร" ได้

ภายในบริเวณ หมู่บ้านหล่อม
ยังพบซากโบราณสถาน และ เศษภาชนะดินเผากระจัดกระจายอยู่ทั่วไป

หากได้รับการศึกษา
ด้วยกรรมวิธีทางโบราณคดีอีกครั้ง
คงจะพบหลักฐานอะไรอีกมากในการกำหนดอายุโบราณสถานย่านนี้ได้เป็นอย่างดี

เป็นที่น่าเสียดายว่า
หลังจากนั้น อีก ๓๓ ปี
เมื่อ ข้าพเจ้ากลับไป สำรวจบริเวณบ้านหล่อม อีกครั้ง
ทุกสิ่งทุกอย่าง ถูกปรับเปลี่ยนแปลงไปหมดสิ้นแล้ว

ชื่อ “บ้านหล่อม” หด “หอหีบ” หายไป
เหลือเพียงชื่อ “บ้านลอม” แทน
แล้วแถม “สีป้อ” เข้าตามกระแสนิยมละครไทย อีก
เลยมีชื่อเป็นราชการว่า

“บ้านลอมสีป้อ”

ส่วน โคกวัดและมณฑป
กลายเป็นที่อยู่อาศัยของบ้านเรือนราษฎร

ยังโชคดีที่มีต้นไม้ใหญ่ที่มีคุณ พอคุ้มกันมณฑปบางส่วนไว้ พอให้เจ้าที่เจ้าทางได้ขึ้นมาอยูบ้านหลังใหม่
คือ " ศาลพระภูมิ" ข้างหน้านั้น







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น