Best Thai History

Amps

วันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2567

กลยุทธศึก อะแซหวุ่นกี้

 กลยุทธศึก "ยุให้ระแวง แสร้งให้เข้าใจผิด"

ของ อะแซหวุ่นกี้ (มหาสีหสุระ)

ตัดไม้ข่มนาม เจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) ผู้น้อง แต่แรกยังไม่รบแล้ว
เมื่อเจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) กลับมาถึงเมืองพิษณุโลก 
และเตรียมตัวพร้อมแล้ว
อะแซหวุ่นกี้ (มหาสีหสุระ) 
ก็ได้แต่ตั้งค่ายล้อมไว้เฉย ๆ แล้วขี่ม้ายกกองออกเลียบค่ายยั่วท้ารบ 
โดยไม่เข้าโหมหักตีเอาเมือง 
เจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) เจ้าเมืองพิษณุโลก
ทนยั่วไม่ได้ ก็นำทัพออกไปโจมตี ถึง ๒ ครั้ง....ไม่สำเร็จ
จน เจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) ผู้พี่ 
ถึงกับกล่าวว่า
" ฝีมือพลทหารของเจ้าเป็นแต่ทัพหัวเมือง 
ซึ่งจะต่อรบกับฝีมือทัพเสนาบดี นั้น ไม่ได้”  
วันที่สาม อแซหวุ่นกี้ยกออกเลียบค่ายอีก. 
เจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) จึงนำทัพออกไปโจมตีพม่าด้วยตนเอง 
แต่ก็ไม่สำเร็จ แตกถอยกลับเข้าค่าย
อะแซหวุ่นกี้ (มหาสีหสุระ) ยกออกเลียบค่ายดังนั้นทุกวัน. 
เจ้าพระยาจักรี(ทองด้วง) ก็ออกรบทุกวัน,
ผลัดกันแพ้,ผลัดกันชนะถึงเก้าวันสิบวัน. 
อแซหวุ่นกี้จึ่งให้ล่ามร้องบอกเข้าไป ว่า 
"เพลาพรุ่งนี้เราอย่ารบกันเลย. 
ให้ "เจ้าพระยากษัตรศึก"
แม่ทัพออกมาเราจะขอดูตัว.
(หยอด "เจ้าพระยาจักรี" เข้าไปเป็น "เจ้าพระยากษัตริย์ศึก" ขนาดนั้น)
ครั้นรุ่งขึ้น "เจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) ขี่ม้ากั้นสัปทน 
ยกพลทหารออกไปยืนม้าให้ อแซหวุ่นกี้ ดูตัว. 
อแซหวุ่นกี้ จึ่งให้ล่ามถาม อายุพระยาจักรี (ทองด้วง)
พระยาจักรี ตอบว่า อายุ ๓๑ ปี
พระยาจักรี ให้ล่ามถามอายุ อะแซหวุ่นกี้
อะแซหวุ่นกี้ ก็ตอบว่า อายุ ๗๒ ปี
แล้วอะแซหวุ่นกี้ ได้พิจารณาดูรูปดูลักษณ์ ของ เจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) แล้วสรรเสริญ ว่า 
"รูปก็งาม,ฝีมือก็เข้มแข็ง,สู้รบเราผู้เป็นผู้เฒ่าได้...จงอุสาหรักษาตัวไว้"
"ภายหน้าจะได้เป็น กษัตริยฺ์ เป็นแท้ "
ทำนายออกซะขนาดนี้ จะไม่เรียกว่า "วางหมาก กลศึก"  ...
สร้างความรู้สึกแตกแยกไว้ลึก ๆ ได้อย่างไร ?
(ข้อความคำพูดจาก พระราชพงษาวดารกรุงเก่า (ฉบับหมอบรัดเล))




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น