วันประวัติศาสตร์ แห่งเรือพระที่นั่ง
เมื่อ เปลี่ยนเรือพระที่นั่งเอก มาเป็นเรือพระที่นั่งรอง
กองทัพเรือ สร้างเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙
เป็นเรือพระที่นั่งกิ่งประเภทเรือรูปสัตว์
หนึ่งในเรือพระราชพิธี ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค
เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาส
พระราชพิธีกาญจนาภิเษกแห่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙
เข้าประจำการเป็นขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ครั้งแรก
เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๙
โดยจัดขบวนให้เป็นเรือพระที่นั่ง เอก
สำหรับพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ประทับ
และเปลี่ยน เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
ซึ่งเคยเป็นเรืองพระที่นั่งที่พระเจ้าอยู่หัวประทับ
มาเป็นเรือพระที่นั่งรอง
เหตุวุ่นวายเกิดขึ้น
ตั้งแต่ จัดตั้งขบวนเรือ ก่อนจะเคลื่อนออกจากท่าวาสุกรี
เมื่อเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ งอแง
จะไม่ยอมเข้ากระบวน
และเมื่อเคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
มาใกล้จะถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ก็เกิดอาเพท เหตุมิคาดฝัน
เมื่อเกิดลมพายุและฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
ขบวนเรือพยุหยาตรา แปรปรวน ส่ายหันเห ไปตามแรงลมและพายุฝน
โดยเฉพาะ เรือพระที่นั่งที่ทรงประทับ
บรรดาพสกนิกร ที่เฝ้ารอรับเสด็จ รวมทั้งข้าพเจ้าและครอบครัว
ที่ได้ที่รอรับเสด็จ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
บริเวณ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
ใกล้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ทุกคนไม่มีใครกลัวฝนฟ้าที่คะนองในเพลานั้น
เหมือนถูกสะกดให้จับจ้องมองไปที่เรือพระที่นั่งด้วยความเป็นห่วง
เพราะถ้าหากควบคุมเรือพระที่นั่งไม่ให้ทรงลำอยู่ได้
อันตรายก็จะบังเกิดขึ้นกับพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ อย่างแน่นอน
ด้วยเดชะพระบารมี
เมื่อพายุฝนใหญ่ สงบลงได้อย่างรวดเร็ว มิทันนานนัก
เรือพระที่นั่งและขบวนเรือพยุหยาตรา
ก็สามารถผ่านพ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และปากคลองบางกอกน้อย
ไปได้อย่างปลอดภัย
ทุกอย่างกลับเคลื่อนไหวต่อไปเหมือนปกติ
พสกนิกรทวยราษฎร์ทั้งหลาย ต่างคลายความวิตก
โล่งอกลงได้ เมื่อเห็น
พระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทุกพระองค์ทรงปลอดภัย
และตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา
ในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค
ก็มิได้ใช้เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙
เป็นเรือพระที่นั่งเอก
และคืนกลับไปใช้เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
เป็นเรือพระที่นั่งเอก มาจนตราบเท่าทุกวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น