Best Thai History

Amps

วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2566

เจติยวิหารสุลามณี Sulamani Temple

 "บันทึกหลังเที่ยว ย่างกุ้ง,หงสาวดี,พุกาม" 

๑๖ - ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

วันศุกร์ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖

ตอน : เจติยวิหารสุลามณี ( Sulamani Temple )

เจติยวิหารสุดท้ายที่น่าจะเข้าดูได้ทันในวันนี้ (17.16 น.) คือ
เจติยวิหารสุลามณี ( Sulamani Temple )หรือ เจติยวิหารจุฬามณี 
เพราะอยู่ไม่ห่างไกลจากวัดธรรมยางยี มากนัก 
ระยะทางประมาณ ๑.๕ กม.
เจติยวิหารจุฬามณี (สุลามณี) 
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองพุกาม  
ตามประวัติวิหารจุฬามณี กล่าวว่า 
สร้างโดยพระเจ้านรปติสิทธู (โอรสพระเจ้านรถู) เมื่อ พ.ศ.๑๗๐๖ 
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อตอนที่ท่านกำลังเสด็จไปไหว้พระธาตุเจดีย์
ที่บนเขา “ตูรินตวง” (Turintaung ) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ที่สร้างโดยพระเจ้าอนิรุทธ์ 
พระองค์ทอดพระเนตรเห็น
ลำแสงสะท้อนขึ้นมาจากพื้นดินตรงที่ตั้งของวัด 
จึงให้ทหารค้นหาที่มาของลำแสง 
พบว่า มาจากทับทิม อัญมณีเม็ดเล็ก ๆ 
พระองค์เห็นเป็นอัศจรรย์ ว่า คงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 
มีเทวดาดลใจให้พระองค์เห็นลำแสงนี้ 
จึงให้สร้างวิหารบนตำแหน่งที่พบทับทิมแห่งนี้ 
สอดคล้องกับ ชื่อวัดที่แปลความจากชื่อว่า 
“สุลา” มาจาก “สุเล”ในภาษาบาลีแปลว่า “จุล” หมายถึง “เล็ก”, 
“มณี” หมายถึง “แก้ว” 
รวมแล้ว แปลว่า “ดวงแก้วเล็ก”  
มีเรื่องเล่าต่อว่า 
พระองค์ให้เตรียมพื้นที่ในการก่อสร้าง
โดยใช้ช้างเหยียบย่ำบริเวณที่ตั้งวิหาร
เพื่อปรับพื้นดินให้แน่น 
เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้กัลปนา 
เกณฑ์หมู่บ้านรอบ ๆ "จ๊อกเซมา" 
คอยดูแลส่งเสบียงให้ พระหรือผู้มาใช้ เจติยวิหาร แห่งนี้ 
ข้อความการกัลปนาดังกล่าวข้างต้น
ปรากฎอยู่บนจารึกที่ตั้งอยู่ทางมุขด้านทิศเหนือ
แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจหมายถึง 
จุฬามณีเจดีย์ (บาลี: จุฬามณิเจติย) 
อันเป็นเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 
ที่บรรจุพระจุฬาพระโมลีและพระเขี้ยวแก้วของพระโคตมพุทธเจ้า 
ก็ได้เช่นเดียวกัน










เจติยวิหารสุลามณี ( Sulamani Temple ) พุกาม




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น