"บันทึกหลังเที่ยว ย่างกุ้ง,หงสาวดี,พุกาม"
๑๖ - ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
วันศุกร์ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖
ตอน : เจติยวิหารธรรมยางยี (Dhammayangyi )
ออกจากวัดสัพพัญญู
เดินทางต่อ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของเมืองพุกาม
อีกไม่นานก็ถึง
เจติยวิหารธรรมยางยี,วัดดะมะยานจี้
เจติยวิหารธรรมยางยี (Dhammayangyi Temple)
เป็นสถาปัตยกรรมแบบพุกาม ยุคที่ ๓
ที่รูปแบบการก่อสร้างและพระพุทธรูป
เริ่มเป็นพม่าชัดเจนขึ้นมา
พระเจ้านรปติสิธู (Narapatisithu) ( พ.ศ.๑๗๑๗ – พ.ศ.๑๗๕๔ )
พระนามภาษาสันสกฤตว่า "ศรีตรีภูวนาทิตยบวรธัมมราชา"
ทรงโปรดให้สร้างขึ้น เพื่อเป็นการล้างบาป
ที่พระองค์ได้สังหารบิดาและพี่ชายของตน
เพื่อผลักดันตัวเองขึ้นจนได้เป็นกษัตริย์แทน
เจติยวิหาร องค์นี้ นอกจากความใหญ่โตแล้ว
ยังเข้มงวดในการก่อสร้าง ด้วย
กล่าวกันว่า อิฐกว่าล้านก้อนที่เอามาเรียงต่อกัน
ต้องแนบกันสนิทชิดกันแบบมากๆ ในระดับที่
หาก พระเจ้านรปติสิธู
สามารถเอาเข็มจิ้มลอดระหว่างรูอิฐสองก้อนได้
นายช่างผู้นั้นก็จะถูกตัดมือและประหารชีวิตในที่สุด
ในปีที่ ๓ ระหว่างเจดีย์นี้กำลังสร้าง
พระองค์รับสั่งให้ประหารชีวิตพระมเหสีองค์หนึ่ง
ที่เป็นธิดาของกษัตริย์อินเดีย ๆ จึงแอบส่ง
นักลอบสังหารมาสังหารพระเจ้านรปติสิธู
วิหารนี้จึงมีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า "กาลักยามิน" (Kalagya Min)
หมายถึง วิหารของกษัตริย์ที่ถูกฆ่า โดยพวกกาลา
เจติยวิหาร หลังนี้ จึงสร้างไม่เสร็จ สมบูรณ์
มีแค่อิฐเปลือยๆ ไม่มีปูนฉาบ
ไม่มีจิตรกรรมฝาผนังอย่างที่อื่นๆ
บางครั้งจึง เรียกชื่อ วิหารหลังนี้ ว่า
“วิหารที่สร้างไม่เสร็จ” ( Temple Never Completed)

















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น