ภาพแม่ชีชราเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ คือใคร ?
ศาลาหลวงพ่อสังวาลมงคล วัดท่าตูม อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา
"ท้าวอินทรสุริยา" พระอภิบาลหลวง
แม่ชีชราท่านนั้น คือ
"ท้าวอินทรสุริยา" (นางสาวเนื่อง จินตดุลย์)
อดีตพระบริบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์
ท่านเป็นธิดาคนเดียวของกลีบ และทองคำ จินตดุล
เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๘ (ตรงกับปีที่ ๑๘ ในรัชกาลที่ ๕)
ณ ตำบลบางขุนศรี อำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี
บิดารับราชการกรมมหรสพ
มารดามีเชื้อสายราชินิกุล”ชูโต”
ฝักใฝ่ในทางธรรมมาตั้งแต่อายุยังเยาว์วัย
เคยบวชเป็นชี ตั้งแต่ อายุ ๑๕
ที่สำนักชี วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ๕ ปี
ก่อนจะเข้าศึกษาวิชาพยาบาล
ที่โรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช
จนสำเร็จวิชาพยาบาลศิริราช รุ่นที่ ๙
เป็นพระสหายร่วมชั้นเรียนวิชาพยาบาล
ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
เคยรับราชการเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลศิริราช
และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
และเคยเป็นพยาบาลอาสาในช่วงสงครามโลก ครั้งที่หนึ่ง
ในปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ( ปีที่ ๑๔ ในรัชกาลที่ ๖ )
เมื่อหม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา
ได้ให้ประสูติกาล หม่อมเจ้ากัลยาณิวัฒนา มหิดล
และติดตามสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ
เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์
เสด็จกลับสยาม
ในปีนั้นเอง
สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์
ได้คัดเลือกพระพี่เลี้ยงนางนม
ให้มาถวายการดูแลพระโอรส-ธิดา
นางพยาบาลเนื่อง จินตดุล
ได้รับการคัดเลือก
เพราะเป็นสหายคนสนิทของหม่อมสังวาลย์
เธอได้ติดตามไปเป็นพระพี่เลี้ยง
และตามเสด็จไปประเทศเยอรมนีและประเทศฝรั่งเศส
และตามเสด็จในการเสด็จนิวัติพระนคร ทุกครั้ง
"ไม่ว่าพระพี่เลี้ยง (แหนน) จะสรงน้ำหรือแต่งพระองค์ให้กับพระอนุชา พระองค์เจ้าหญิงจะต้องทรงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ
จนในที่สุดพระพี่เลี้ยง(แหนน)ทนไม่ไหว
จึงไปทูลฟ้องหม่อมมารดา
พระองค์จึงถูกห้ามไม่ให้ไปเกี่ยวข้องในเวลาดังกล่าวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา"
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ทรงออกนามเรียกพระพี่เลี้ยงเนื่องว่า “แหนน”
เพราะออกเสียงง่ายกว่าคำว่า "เนื่อง"
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ก็ทรงออกนามเรียกท่านเช่นนั้นตามพระเชษฐภคินี
วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๓ ( ปีที่ ๕ ในรัชกาลที่ ๙ ) อายุ ๖๕ ปี พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
โปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์
ให้ นางสาวเนื่อง จินตดุล
เป็น ท้าวอินทรสุริยา สรรพาหารพิจาริณี ที่นักพฤฒิชราฉลองพระโอษฐ์ บังคับบัญชาบรรดาวิเสทนอกในทั้งปวง ถือศักดินา ๑,๐๐๐
คุณท้าวอินทรสุริยา
ยังได้ถวายการอภิบาลพระราชโอรสธิดา ทุกพระองค์
ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ต้นปี พ.ศ.๒๕๐๕ ( ปีที่ ๑๗ ในรัชกาลที่ ๙ ) อายุ ๗๗ ปี
ท้าวอินทรสุริยาได้กราบบังคมทูลลา
ถือเพศแม่ชี อีกครั้ง ณ วัดโกมุทรัตนาราม จังหวัดชลบุรี
โดยมีหลวงพ่อสาลี เป็นผู้ประกอบพิธี
เมื่อบวชแล้วก็ย้ายมาจำพรรษา ณ วัดธาตุทอง
ท่านได้อุทิศตนบำเพ็ญประโยชน์ให้กับการบำรุงวัด
สถานพยาบาล โรงเรียน และสถาบันแม่ชี
และท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ หลายแห่ง
ได้รู้จักกับพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลายรูป
ท้าวอินทรสุริยา (นางสาวเนื่อง จินตดุลย์)
อดีตพระบริบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
ได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
เสด็จฯ ทอดผ้ากฐินต้น ณ วัดท่าตอ อ.มหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ รับที่จะเสด็จ
และ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาพร้อมด้วย
สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินต้น พระราชทาน
ณ วัดท่าต่อ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๔
ท้าวอินทรสุริยาถึงแก่อนิจกรรม
เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๗ เวลา ๑๙.๑๐ น.
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สิริรวมอายุได้ ๘๘ ปี ๑๑ เดือน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น