Best Thai History

Amps

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ภาพแม่ชีชราเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ คือใคร

 ภาพแม่ชีชราเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ คือใคร ?

ศาลาหลวงพ่อสังวาลมงคล วัดท่าตูม อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา
 "ท้าวอินทรสุริยา" พระอภิบาลหลวง
แม่ชีชราท่านนั้น คือ 
"ท้าวอินทรสุริยา" (นางสาวเนื่อง จินตดุลย์) 
อดีตพระบริบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ  
และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์
ท่านเป็นธิดาคนเดียวของกลีบ และทองคำ จินตดุล 
เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๘ (ตรงกับปีที่ ๑๘ ในรัชกาลที่ ๕) 
ณ ตำบลบางขุนศรี อำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี 
บิดารับราชการกรมมหรสพ 
มารดามีเชื้อสายราชินิกุล”ชูโต” 
ฝักใฝ่ในทางธรรมมาตั้งแต่อายุยังเยาว์วัย
เคยบวชเป็นชี ตั้งแต่ อายุ ๑๕ 
ที่สำนักชี วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ๕ ปี
ก่อนจะเข้าศึกษาวิชาพยาบาล 
ที่โรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช 
จนสำเร็จวิชาพยาบาลศิริราช รุ่นที่ ๙ 
เป็นพระสหายร่วมชั้นเรียนวิชาพยาบาล
ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 
เคยรับราชการเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลศิริราช
และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 
และเคยเป็นพยาบาลอาสาในช่วงสงครามโลก ครั้งที่หนึ่ง
ในปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ( ปีที่ ๑๔ ในรัชกาลที่ ๖ )  
เมื่อหม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา 
ได้ให้ประสูติกาล หม่อมเจ้ากัลยาณิวัฒนา มหิดล 
และติดตามสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ 
เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ 
เสด็จกลับสยาม 
ในปีนั้นเอง
สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์
ได้คัดเลือกพระพี่เลี้ยงนางนม
ให้มาถวายการดูแลพระโอรส-ธิดา 
นางพยาบาลเนื่อง จินตดุล 
ได้รับการคัดเลือก 
เพราะเป็นสหายคนสนิทของหม่อมสังวาลย์ 
เธอได้ติดตามไปเป็นพระพี่เลี้ยง 
และตามเสด็จไปประเทศเยอรมนีและประเทศฝรั่งเศส 
และตามเสด็จในการเสด็จนิวัติพระนคร ทุกครั้ง 
"ไม่ว่าพระพี่เลี้ยง (แหนน) จะสรงน้ำหรือแต่งพระองค์ให้กับพระอนุชา พระองค์เจ้าหญิงจะต้องทรงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ 
จนในที่สุดพระพี่เลี้ยง(แหนน)ทนไม่ไหว
จึงไปทูลฟ้องหม่อมมารดา 
พระองค์จึงถูกห้ามไม่ให้ไปเกี่ยวข้องในเวลาดังกล่าวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา"
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา 
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ 
ทรงออกนามเรียกพระพี่เลี้ยงเนื่องว่า “แหนน” 
เพราะออกเสียงง่ายกว่าคำว่า "เนื่อง" 
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร 
และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 
ก็ทรงออกนามเรียกท่านเช่นนั้นตามพระเชษฐภคินี
วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๓ ( ปีที่ ๕ ในรัชกาลที่ ๙ ) อายุ ๖๕ ปี พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 
โปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์ 
ให้ นางสาวเนื่อง จินตดุล 
เป็น ท้าวอินทรสุริยา สรรพาหารพิจาริณี ที่นักพฤฒิชราฉลองพระโอษฐ์ บังคับบัญชาบรรดาวิเสทนอกในทั้งปวง ถือศักดินา ๑,๐๐๐
คุณท้าวอินทรสุริยา 
ยังได้ถวายการอภิบาลพระราชโอรสธิดา ทุกพระองค์
ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 
และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 
ต้นปี พ.ศ.๒๕๐๕ ( ปีที่ ๑๗ ในรัชกาลที่ ๙ ) อายุ ๗๗ ปี  
ท้าวอินทรสุริยาได้กราบบังคมทูลลา
ถือเพศแม่ชี อีกครั้ง ณ วัดโกมุทรัตนาราม จังหวัดชลบุรี 
โดยมีหลวงพ่อสาลี เป็นผู้ประกอบพิธี 
เมื่อบวชแล้วก็ย้ายมาจำพรรษา ณ วัดธาตุทอง 
ท่านได้อุทิศตนบำเพ็ญประโยชน์ให้กับการบำรุงวัด 
สถานพยาบาล โรงเรียน และสถาบันแม่ชี 
และท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ หลายแห่ง
ได้รู้จักกับพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลายรูป   
ท้าวอินทรสุริยา (นางสาวเนื่อง จินตดุลย์) 
อดีตพระบริบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ  
ได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 
เสด็จฯ ทอดผ้ากฐินต้น ณ วัดท่าตอ อ.มหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ รับที่จะเสด็จ 
และ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาพร้อมด้วย
สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ 
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินต้น พระราชทาน 
ณ วัดท่าต่อ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 
เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๔  
ท้าวอินทรสุริยาถึงแก่อนิจกรรม 
เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๗  เวลา ๑๙.๑๐ น. 
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สิริรวมอายุได้ ๘๘ ปี ๑๑ เดือน






















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น