Best Thai History

Amps

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

วัดท่าตอ สร้างขึ้นในช่วง ปลายกรุงศรีอยุธยา หลวงพ่อสังวาลมงคล สร้างสมัย รัชกาลที่ ๓

 "หลวงพ่อสังวาลมงคล" วัดท่าตอ 

อ.มหาราช จ.อยุธยา

"วัดท่าตอ" ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองบางแก้ว 
หรือ แม่น้ำเจ้าพระยา(เก่า)  
สร้างขึ้นในช่วง ปลายกรุงศรีอยุธยา 
โดยยังปรากฏหลักฐาน 
เจดีย์ทรงปรางค์ ทรงสูงชะลูด 
สมัยอยุธยาตอนปลาย องค์หนึ่ง 
กับ พระพุทธรูปทรงเครื่องปางมารวิชัย 
ศิลปะยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น 
ขนาด หน้าตัก กว้าง ๑.๖๕ เมตร องค์หนึ่ง 
ตามประวัติ กล่าวว่า 
เมื่อประมาณ ปี ๒๓๗๐ (ปีที่ ๔ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ) 
พระพุทธรูปองค์นี้ ...."ลอยน้ำ" มา
เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ 
จะใช้แรงลากจูงอย่างเดียวไม่เป็นผล  
จึงนิมนต์พระสงฆ์จุดธูปอัญเชิญ 
ขึ้นจากคลองบางแก้ว ได้อย่างง่ายดาย 
ช่วงแรกประดิษฐานไว้บนดิน ที่ท่าน้ำหน้าวัด 
เนื่องจากไม่สามารถที่จะขยับเข้าไปในพระอุโบสถได้ 
ต่อมา จึงสร้าง ศาลาเล็กๆคลุมกันแดดกันฝน ไว้
ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อศาลาดิน” บ้าง “หลวงพ่อลอย” บ้าง  
จากการพิจารณานำรูปแบบ ของ "หลวงพ่อสังวาลมงคล" 
ไปเปรียบเทียบกับ 
พระพุทธรูปทรงเครื่อง 
โดยเฉพาะ องค์ที่เป็นพระประธาน
ในพระอุโบสถวัดนางนองวรวิหาร 
ที่ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ ทรงสร้าง แล้ว 
เห็นว่า เป็น "ทรงพระราชนิยม" 
จึงสันนิษฐานในเบื้องต้น ว่า
"วัดท่าตอ" เป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย จริง 
(หลักฐานจากเจดีย์ทรงปรางค์) 
ต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ ๓ (พ.ศ.๒๓๗๐) 
มีการปฏิสังขรณ์ วัดท่าตอเก่า ขึ้นอีกครั้ง
พระพุทธรูปองค์นี้ (หลวงพ่อลอย) 
อาจถูกอัญเชิญมา
เพื่อประดิษฐานเป็น "พระประธาน"ในพระอุโบสถ
ที่กำลังปฎิสังขรณ์ขึ้นใหม่ 
จึงนำพระพุทธรูปองค์นี้จากกรุงเทพฯ มา
และเนื่องจากการปฏิสังขรณ์วัดยังไม่เรียบร้อย
จึงนำไปพักไว้ชั่วคราวใกล้ศาลาท่าน้ำ ก่อน
แต่จะด้วยเหตุใดไม่ปรากฎ 
จึงยังไม่ได้นำขึ้น ไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ 
แต่ก็ได้สร้างหลังคาคลุมกันแดดกันฝนไว้ชั่วคราว เท่านั้น
"หลวงพ่อลอย" หรือ "หลวงพ่อศาลาดิน"
ต้องตกค้างเป็นที่สักการะบูชา
ปรากฎผล ดังคำปรารถนาของพุทธศาสนิกชน  
มีชื่อเสียง อยู่ ณ ที่เดิม มาจนทุกวันนี้ 
ต่อมาได้สร้างศาลาถาวรขึ้นปกคลุม
แทนศาลาเก่าชั่วครววที่ชำรุดไปตามกาลเวลา 
และได้รับการขนานนามใหม่ ว่า 
“พระสังวาลมงคล”












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น