"สทิง สิงขร สงขลา"
๒๔ - ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕
ตอน : บทสุดท้าย ของ สิงขลนคร
สุลต่านสุไลมานถึงแก่อสัญกรรมใน ปี พ.ศ.๒๒๑๑
ปีที่ ๑๓ ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
พระศพของพระองค์ได้ถูกฝังอยู่ในป้อมที่เขาแดงด้วย
เรียกกันต่อมาว่า
"สุสานของสุลต่านสุไลมาน"
หรือ "ดาโต๊ะมรหุ่ม" (ที่ฝังศพเจ้านายมุสลิม)
หรือ “ตาตุมรหุ่ม”
โดยมีแผ่นเหล็กจารึกภาษาอาหรับ
ติดอยู่เหนือฐานที่บรรจุศพด้วย ความว่า
“อัลมรหุ่ม สอลตอล สุไลมาน ชาห์”
แปลว่า “ท่านผู้ไปสู่พระเมตตาของพระเจ้าแล้วนี้ คือ สุลต่านสุไลมาน”
"มุสตาฟา" พระราชโอรสพระองค์โตของสุลต่านสุลัยมาน
ขึ้นครองราชย์ เป็นสุลต่านเมืองสิงขระนคร แทน
ในนาม “พระเจ้าเมืองสงขลาที่ ๒”
จนถึง ปี พ.ศ. ๒๒๒๓ ปีที่ ๒๕ ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ทรงให้ยกกองทัพ มาโจมตีเมืองสิงขระนคร
ทั้งทางบกและทางทะเล อีกครั้ง
ดังปรากฏในจดหมายเหตุของ
"มองซิเออ เวเรต์"
ชาวฝรั่งเศส ที่มาค้าขายในอยุธยาใน พ.ศ. ๒๒๓๐
ปีที่ ๓๒ ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ว่า
“พระเจ้ากรุงสยามได้ส่งกองทัพเรือซึ่งมีเรือรบมาเป็นอันมาก
ให้มาตีสิงขระนครเป็นอย่างมาก
และ ได้ใช้แผนล่อลวงผู้รักษาป้อมแห่งหนึ่ง
ให้มีใจออกห่างจากนายตน
จากนั้นทหารกรุงศรีอยุธยา
จึงได้ลอบเข้าไปทางประตูดังกล่าว
เปิดประตูให้ทหาร เข้ามาทำลาย
และ เผาเมือง โดยเพลิงได้ลุกลามจนไหม้ เมือง
ตลอดจนวังของเจ้าเมือง จนหมดสิ้น
อีกทั้ง ทหารกรุงศรีอยุธยา
ยังได้ยกทัพเข้าไปในเมืองทำลาย ป้อม ประตู หอรบ
และ บ้านเรือนจนเหลือแต่แผ่นดิน
เพราะเกรงว่าจะมีคนคิดกบฎขึ้นมาอีก”
สุสานของสุลต่านสุไลมาน หรือ ดาโต๊ะมรหุ่ม (ที่ฝังศพเจ้านายมุสลิม) หรือ “ตาตุมรหุ่ม”
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ( พ.ศ.๒๑๙๙ - พ.ศ.๒๒๓๑ )
กองทัพเรือจากกรุงศรีอยุธยา เข้าโจมตีเมือง "สิงขลนคร"
กองทัพพิพิธสยาม เข้าตีป้อมหัวเขาน้อย เมืองสิงขลนคร
เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น