Best Thai History

Amps

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2565

สงขลา เมืองที่ ๒ แหลมสน สมัยกรุงธนบุรี

 "สทิง สิงขร สงขลา"

๒๔ - ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕

ตอน : สงขลา เมืองที่ ๒ แหลมสน สมัยกรุงธนบุรี

หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ.๒๓๑๐ แล้ว 
เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช (หนู) 
ได้ถือโอกาสตั้งตนเป็นอิสระ เรียกว่า “ชุมนุมเจ้านครศรีธรรมราช” 
และแต่งตั้งให้ เจ้าเมืองสงขลา 
"วิเถียน" ปกครองเมืองสงขลา สืบไป
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี 
ต้องยกกองทัพไปปราบปรามก๊กเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช(หนู) 
ใน ปี พ.ศ.๒๓๑๒ 
ปีที่ ๒ ในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี 
ตีเข้าเมืองได้แล้ว 
แต่เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช หนีไปเมืองตานี 
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 
เสด็จยกทัพเรือตามไปจนถึงเมือง “สังขลา” 
เจ้าพระยาจักรี เจ้าพระยาพิชัยราชา 
เมื่อไปถึงเมืองสงขลา นั้น ไม่มีเจ้าเมือง 
จึงให้คัดเลือกชาวบ้านคนหนึ่ง ชื่อ "โยม" 
มาดำรงตำแหน่ง เป็น "พระสงขลา" 
เจ้าเมืองสงขลาฝั่งแหลมสน  
ในช่วงเวลาเดียวกัน มีชาวจีนคนหนึ่งชื่อ "นายเหยี่ยง แซ่เฮา" 
ซึ่งอพยพ มาจาก เมือง เจียงจิ้งหู มลฑลฟูเจี้ยน 
ได้เสนอบัญชีทรัพย์สิน และบริวารของตน 
เพื่อแลกกับสัมปทานผูกขาด ธุรกิจรังนก
บน เกาะสี่เกาะห้า ในทะเลสาบสงขลา 
เจ้าพระยาทั้งสองจึงพิจารณา แต่งตั้งให้ 
"นายเหยี่ยง แซ่เฮา" เป็น "หลวงอินทคีรีสมบัติ" 
นายอากรรังนกเกาะสี่เกาะห้า
พระสงขลา(โยม) ได้ปกครองเมืองสงขลาฝั่งแหลมสน 
จนถึงปี พ.ศ. ๒๓๑๗ 
ปีที่ ๗ ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี 
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ ได้ดำริว่า 
พระสงขลา (โยม) หย่อนสมรรถภาพในการปฏิบัติราชการ 
จึงให้หลวงอินทคีรีสมบัติ (เหยียง แซ่เฮา) 
ซึ่งเป็นนายอากรรังนก เกาะสี่เกาะห้า 
เลื่อนตำแหน่งเป็น "หลวงสุวรรณคีรีสมบัติ" เจ้าเมืองสงขลา คนถัดมา


พระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช



เมืองสงขลา ๒ แหลมสน ( พ.ศ.๒๒๒๓ ปีที่ ๒๕ ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ถึง พ.ศ.๒๓๗๕ (ปีที่ ๙ ในรัชกาลที่ ๓ ) รวมเวลา ๑๕๒ ปี



นายเหยี่ยง แซ่เฮา จีนมาจาก เมือง เจียงจิ้งหู มลฑลฟูเจี้ยน
มาเป็น หลวงอินทคีรีสมบัติ นายอากรรังนกเกาะสี่เกาะห้า ต่อมา เลื่อนตำแหน่งเป็น หลวงสุวรรณคีรีสมบัติ เจ้าเมืองสงขลา ใน พ.ศ.๒๓๑๗ ปีที่ ๗ ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี






เกาะสี่ เกาะห้า ปากพะยูน พัทลุง





วันที่ ๒๒ –๒๕ กรกฎาคม ๒๔๓๒ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับแรม ณ พลับพลาที่ประทับเกาะมวย (เกาะสี่เกาะห้า ) และในวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร ๑๐๘ ( พ.ศ.๒๔๓๒)



พระราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ เกาะสี่ เกาะห้า ปากพะยูน พัทลุง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น