Best Thai History

Amps

วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ย้ายเมืองสงขลา ในรัชกาลที่ ๓

 ย้ายเมืองสงขลา ในรัชกาลที่ ๓

ในปี พ.ศ.๒๓๗๕ (ปีที่ ๙ ในรัชกาลที่ ๓ ) 
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง ณ สงขลา)   
ย้ายเมืองสงขลาจาก เมืองเดิมที่ตำบลแหลมสน
ไปตั้ง ที่ตำบลบ่อยาง 
ลึกเข้าไปทางด้านหลังเขาตังกวน
หลังจากย้ายเมืองมาสร้างที่บ่อยางแล้ว  
ในปี พ.ศ. ๒๓๗๙ ( ปีที่ ๑๓ ในรัชกาลที่ ๓ )  
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว 
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่ง
ไม้ชัยพฤกษ์หลักชัย และเทียนชัย
มาพระราชทานแก่พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง) ใช้ปักเป็นหลักเมือง 
วางหลักเมืองและสมโภชหลักเมือง เสร็จ 
จึงดำเนินการสร้างกำแพงเมืองสงขลาใหม่ 
ขึ้นในปี พ.ศ.๒๓๘๑ ( ปีที่ ๑๕ ในรัชกาลที่ ๓ )  
เป็นกำแพงก่อด้วยศิลาก้อนสอปูนเป็นรูปสี่เหลี่ยม  
ล้อมรอบเมืองสงขลา
มีความยาว ทิศเหนือจดใต้ประมาณ ๑,๒๐๐ เมตร 
ทางทิศเหนือกว้าง ประมาณ ๔๐๐ เมตร 
ทางทิศใต้กว้างประมาณ ๔๗๐ เมตร 
กำแพงสูง ๕ เมตร หนา ๒ เมตร 
มีใบเสมาและป้อมประตูมั่นคง 
มีป้อม ๘ ป้อม แต่ละป้อมมีปืนใหญ่กระสุน ๔ นิ้ว ป้อมละ ๓ - ๔ กระบอก 
ประตูเมืองเป็นซุ้มใหญ่ ๑๐ ประตู 
กับมีประตูเล็กอีก ๑๐ ประตูโดยรอบ  
การสร้างกำแพงเมืองสงขลาใหม่ 
แล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๓๘๕ ( ปีที่ ๑๙ ในรัชกาล ที่ ๓ )  
ปัจจุบัน คงเหลือแต่กำแพงด้านถนนจะนะ 
ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ  (เรือนจำเก่า)  
กับที่ถนนนครในเท่านั้น


(เส้นเหลือง) แสดงแนวกำแพงเมืองสงขลา ที่สร้างโดย พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง) ตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๓๘๑ - พ.ศ.๒๓๘๕ สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
(โดยประมาณ) บน Google Map



ภาพและตำแหน่งป้อมและประตูเมืองสงขลา ที่สร้างโดย พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง)



กำแพงเมืองสงขลา ด้านทิศเหนือ ที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน



ประตูเมือง ปัจจุบันรื้อทิ้งไปแล้ว



กำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก หลังธนาคารกสิกรไทย สาขานครใน



กรมศิลปากร กำลังขุดแต่ง กำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก หลังธนาคารกสิกรไทย สาขานครใน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น