ย้ายเมืองสงขลา ในรัชกาลที่ ๓
ในปี พ.ศ.๒๓๗๕ (ปีที่ ๙ ในรัชกาลที่ ๓ )
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง ณ สงขลา)
ย้ายเมืองสงขลาจาก เมืองเดิมที่ตำบลแหลมสน
ไปตั้ง ที่ตำบลบ่อยาง
ลึกเข้าไปทางด้านหลังเขาตังกวน
หลังจากย้ายเมืองมาสร้างที่บ่อยางแล้ว
ในปี พ.ศ. ๒๓๗๙ ( ปีที่ ๑๓ ในรัชกาลที่ ๓ )
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่ง
ไม้ชัยพฤกษ์หลักชัย และเทียนชัย
มาพระราชทานแก่พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง) ใช้ปักเป็นหลักเมือง
วางหลักเมืองและสมโภชหลักเมือง เสร็จ
จึงดำเนินการสร้างกำแพงเมืองสงขลาใหม่
ขึ้นในปี พ.ศ.๒๓๘๑ ( ปีที่ ๑๕ ในรัชกาลที่ ๓ )
เป็นกำแพงก่อด้วยศิลาก้อนสอปูนเป็นรูปสี่เหลี่ยม
ล้อมรอบเมืองสงขลา
มีความยาว ทิศเหนือจดใต้ประมาณ ๑,๒๐๐ เมตร
ทางทิศเหนือกว้าง ประมาณ ๔๐๐ เมตร
ทางทิศใต้กว้างประมาณ ๔๗๐ เมตร
กำแพงสูง ๕ เมตร หนา ๒ เมตร
มีใบเสมาและป้อมประตูมั่นคง
มีป้อม ๘ ป้อม แต่ละป้อมมีปืนใหญ่กระสุน ๔ นิ้ว ป้อมละ ๓ - ๔ กระบอก
ประตูเมืองเป็นซุ้มใหญ่ ๑๐ ประตู
กับมีประตูเล็กอีก ๑๐ ประตูโดยรอบ
การสร้างกำแพงเมืองสงขลาใหม่
แล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๓๘๕ ( ปีที่ ๑๙ ในรัชกาล ที่ ๓ )
ปัจจุบัน คงเหลือแต่กำแพงด้านถนนจะนะ
ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (เรือนจำเก่า)
กับที่ถนนนครในเท่านั้น
(เส้นเหลือง) แสดงแนวกำแพงเมืองสงขลา ที่สร้างโดย พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง) ตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๓๘๑ - พ.ศ.๒๓๘๕ สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
(โดยประมาณ) บน Google Map
ภาพและตำแหน่งป้อมและประตูเมืองสงขลา ที่สร้างโดย พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง)
กำแพงเมืองสงขลา ด้านทิศเหนือ ที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน
ประตูเมือง ปัจจุบันรื้อทิ้งไปแล้ว
กำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก หลังธนาคารกสิกรไทย สาขานครใน
กรมศิลปากร กำลังขุดแต่ง กำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก หลังธนาคารกสิกรไทย สาขานครใน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น