เรื่อง “พระเจดีย์ทอง” ตอนที่ ๒
เรื่องยาว...เก็บมาย่อเล่าสู่กันฟัง
พระวินิจฉัย ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
พระวินิจฉัย ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ เสด็จไปทำงานที่หอพระสมุดฯ
เห็นมณฑปที่วัดมหาธาตุเนือง ๆ ก็เกิดความคิด ว่า
สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯมหาสุรสิงหนาท
เหตุใดจึงทรงถ่ายแบบพระสถูปและพระวิหาร
ที่สร้างไว้บรรจุพระอัฐิ จากวัดพระศรีสรรเพชญ์
มาสร้างในวัดมหาธาตุ
เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยา
พระปฐมบรมมหาชนก กระจัดพลัดพรายแยกย้าย
ไปอยู่ที่เมืองพิษณุโลก
พระปฐมบรมมหาชนก ประชวรสวรรคตในที่นั้น
กับด้วยเจ้าจอมมารดามา ผู้เป็นบาทบริจา
และเจ้าฟ้ากรมหลวงจักรเจษฎา พระกุมารอันเกิดด้วยเจ้าจอมมารดานั้น
ได้ช่วยกันทำการปลงพระศพและเก็บอัฐิไว้
แล้วพาลงมาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
และเมื่อพระราชวงศ์รวบรวมกันได้
สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์แล้ว
จึงแบ่งพระบรมอัฐิสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
ให้สมเด็จพระอนุชาธิราชไปทรงสักการบูชาในพระราชวังบวรฯส่วนหนึ่ง
ประเพณีการเก็บรักษาอัฐิ นั้น
ตั้งแต่โบราณมาจนถึงสมัยกรุงธนบุรี
ไม่มีธรรมเนียมการเก็บรักษาไว้ในบ้าน
แม้แต่พระบรมอัฐิพระเจ้าแผ่นดิน ก็ตาม
เพิ่งจะมีการเก็บพระอัฐิไว้ที่ในวังเป็นครั้งแรก ในรัชกาลที่ ๑ เป็นต้นมา
และด้วยเหตุที่บ้านเมืองที่ตั้งขึ้นยังไม่มั่นคง
จึงยังไม่สมควรสร้างพระเจดีย์บรรจุพระอัฐิ
รัชกาลที่ ๑ ตรัสว่า “ถ้าบ้านแตกเมืองเสียจะได้พาไปด้วยได้”
จึงโปรดให้ประดิษฐานพระอัฐิของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
เป็นที่สักการบูชาในพิธีถือน้ำ
แทนบูชาพระรูปสมเด็จพระรามาธิบดีอู่ทอง
ซึ่งเรียกว่า “พระเทพบิดรครั้งกรุงศรีอยุธยา”
ดังนั้น พระอัฐิของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
ส่วนของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
จึงประดิษฐานอยู่ในพระบรมมหาราชวังมาจนถึงทุกวันนี้
ภาพประกอบ : Google
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น