อัตชีวประวัติ ปฏิพัฒน์(วัชรินทร์) (ต่อ)
ชีวิตแรกรับราชการ : ตำแหน่ง ภัณฑารักษ์ จัตวา พช.พระนคร
ตอน : กรมศิลปากร - คณะโบราณดดี หลังสัมมนา ARGAFA ปี ๒๕๑๖
วันจันทร์ที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๖
การสัมมนา ARGAFA
เรื่องเกี่ยวกับโบราณคดีและวิจิตรศิลป์ในประเทศไทย
จัดขึ้นที่ โรงเรียนนาฎศิลป์
ข้าพเจ้ามีโอกาสได้เข้าร่วมสัมมนากับเขาด้วย
ในฐานะของผู้ช่วยเลขานุการ
ประจำฝ่ายโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์
ในการสัมมนามีผู้มาเข้าร่วมประชุมด้วย
กลุ่มละหลาย ๆ คน
ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นอาจารย์และบุคคลภายนอก
ดังนั้นในสภาพทั่วไปแล้ว
เขาจึงมาสัมมนาในฐานะ ผู้แสดงความคิดเห็น
และ ผู้สังเกตการณ์เท่านั้น
การสัมมนา มี อาจารย์หมอสุด แสงวิเชียร เป็นประธาน
มีอาจารย์ปรีชา กาญจนาคม (โบราณคดี รุ่นที่ ๔ ) เป็นเลขานุการ
ซึ่งบรรดาตำแหน่งต่าง ๆ เหล่านี้
ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะเป็นผู้เลือกกันขึ้นมา
อาจารย์ชิน อยู่ดี เป็นผู้เริ่มดำเนินการอภิปราย
เรื่อง คนก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
เมื่อพูดจบ ก็มีการซักถาม หรือตั้งข้อสงสัยกัน
ไม่ได้เป็นไปในทางด้านวิชาการเท่าไหร่
แต่จะเน้นหนักไปในเรื่องการทำงานของกรมศิลปากร
ที่ไม่คอยจะมีประสิทธิภาพ
ต่างก็แสดงข้อบกพร่อง และชี้แจงปัญหาออกมาตามลำดับ
อาจารย์ พิสิฐ เจริญวงศ์ ( โบราณคดี รุ่นที่ ๗ )
เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย ต่อ
ถ้อยความในคำบรรยายนั้น
มีเรื่องนอกเหนือไปจากงานวิชาการ คือ
ปัญหาการทำงานของกรมศิลปากร และ คณะโบราณคดี อยู่นั้นเอง
และ เมื่อมีการโต้แย้งกันไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นเรื่อง
หลักสูตรของคณะโบราณคดี
ที่จะต้องทำให้ ทั้งสองสถาบันนี้มีความสัมพันธ์ร่วมกันไปได้
โดยสอดคล้องกัน
วันอังคารที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๖
หลังจากปิดการสัมมนาแล้ว
พวกพี่ ๆ ทั้งหลาย ที่จบจากคณะโบราณคดี
และ ทำงานอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์ฯ ต่าง ๆ
รวมทั้ง ข้าพเจ้า เพ็ญพรรณ และ สุกิจ เที่ยง มณีกุล (โบราณคดี รุ่นที่ ๑๘) นัดไปชุมนุมกันต่อ
ที่ "ร้านศรแดง"
มีบรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง
ถึงแม้จะมีการโต้แย้งในความคิดกันบ้าง
แต่ก็เป็นบรรยากาศแห่งความอบอุ่นและเป็นกันเองอย่างมาก
พี่นิคม แย้ง
เรื่อง “เมืองอโยธยา”
ที่ข้าพเจ้าเขียนขัดแย้งกับ น.ณ ปากน้ำ ในหนังสือโบราณคดี,
พี่สมศักดิ์ รัตนกุล (โบราณคดี รุ่นที่ ๑ )
พี่นิคม มูสิกะคามะ (โบราณคดี รุ่นที่ ๔)
พี่ตุ๊ มงคล สำราญสุข (โบราณคดีรุ่นที่ ๑๑)
ข้าพเจ้า (นายวัชรินทร์ พุ่มพงษ์แพทย์ โบราณคดีรุ่นที่ ๑๓/๑๖)
และ เพ็ญพรรณ เต็มสุข (โบราณคดี รุ่นที่ ๑๓ )
พากันไปกินดื่มต่อ ที่ สวนอาหาร “เย็นฤดี”
ถึงแม้จะพูดขัดแย้ง และโต้เถียงกันมาก
แต่ก็ยังดูเหมือนจะเข้าใจกันพอสมควร
รู้สึกเป็นสุขที่อยู่ในบรรยากาศของความเป็นพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ดี เช่นนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น