Best Thai History

Amps

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2563

อัตชีวประวัติ ปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์) เมื่อแรกรับราชการ ปี ๒๕๑๖ ตอน เมื่อ แสง แห่งปัญญาดับ

 ตอน : เมื่อ"แสง"แห่งปัญญาดับ

วันจันทร์ที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๖
วันนี้เป็นวันจันทร์ ตรงกับวันหยุดของพิพิธภัณฑ์ 
หมอนัดให้ไป ร.พ.เพื่อตรวจดูแผลที่เย็บไว้ 
หมอชะทำความสะอาดแผลให้แล้ว เสร็จพิธีกันเท่านั้น 
ข้าพเจ้ากลับบ้านถึงบ้าน
โทรศัพท์ไปหาพี่สันติ (อาจารย์ สันติ เล็กสุขุม ) 
ได้ข่าว อาจารย์แสง มนวิทูร 
ถึงแก่กรรมแล้ว ที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 
เมื่อคืน (วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๖) 
ข้าพเจ้าอึ้งไปชั่วขณะ เพราะ
คิดถึง เสียดายคนดี และคนเก่ง อย่างอาจารย์
ข้าพเจ้าตั้งใจจะไปเยี่ยมอาจารย์ แสง มนวิทูร ที่บ้าน
หลายครั้งหลายหน 
หลังจากที่เห็นอาการป่วยของอาจารย์ ในวันนั้น (ท่าพระจันทร์)
( ๑๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๑๖) 
อาจารย์แสง มนวิทูร กล่าวกับข้าพเจ้าว่า
"ผมจะขึ้นไปเมืองเหนือ อีกครั้ง แล้วจะไม่กลับลงมาอีก"
แต่ข้าพเจ้าก็ยังหาเวลาไปเยี่ยมอาจารย์ที่บ้านไม่ได้เลย 
เพราะต้องออกเดินทางไปขุดโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ 
กับ อาจารย์พิสิฐ เจริญวงศ์ ที่ บ้านพังโคน จังหวัดสกลนคร 
กลับมาก็ต้องสอบ ทำงาน และเข้าโรงพยาบาล 
จึงเป็นอันหมดวาสนาที่จะได้พบเห็นอาจารย์ แสง มนวิทูร 
อีกครั้ง ตั้งแต่วันนั้น และ คิดไม่ถึงว่า คำพูดที่คุยกันนั้น จะเป็นการสั่งลาครั้งสุดท้ายของอาจารย์ แสง ที่มีต่อข้าพเจ้า
๑๓ น.เศษ เพ็ญพรรณ เต็มสุข (โบราณคดี รุ่นที่ ๑๓ ) 
โทรฯบอกเรื่อง อาจารย์ แสง มนวิทูร อีก 
ฟังน้ำเสียง เธอเสียใจมาก 
ซึ่งข้าพเจ้าก็เห็นใจ 
เพราะเพ็ญพรรณเป็นลูกศิษย์คนโปรดของอาจารย์ 
และ เธอก็รักอาจารย์มากด้วย เช่นเดียวกัน  
ข่าวเช่นนี้ ย่อมทำให้เกิดความสะเทือนใจ 
แก่ศิษย์ทุกผู้ทุกนาม ทั้งฆราวาส และคฤหัสถ์
 “บัดนี้ แสง ประทีปดวงหนึ่ง 
ได้ดับหายไปจากโลกแล้ว 
สู่ดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยความสุข 
ทิ้งไว้แต่ความดี 
และความงอกงามแห่งปัญญาที่ท่านได้สร้างสมไว้ 
ขณะเมื่อยังทนทุกข์อยู่บนโลกย์ ใบนี้"
หลวงพี่ขุน (อาจารย์ คงเดช ประพัฒน์ทอง) อาจารย์ วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์ 
พี่ขุม ( ทรงศรี ประพัฒน์ทอง ) และ เพ็ญพรรณ (หมี)  ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไป อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในเย็นวันนั้น
ข้าพเจ้าอยากจะไปด้วยใจแทบขาด แต่ก็ไปไม่ได้ 
เพราะติดงานที่ต้องทำหลายอย่าง 
ได้แต่ฝากเงิน จำนวน ๑๐๐ บาท ไปกับเพ็ญพรรณ ด้วยเท่านั้น




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น