Best Thai History

Amps

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563

บันทึกการสำรวจ เมืองอโยธยา ๓๑ กรกฏาคม พ.ศ.๒๕๑๔ ตอน เริ่มต้นวางแผนโครงการสำรวจ "เมืองอโยธยา"

ตอน : เริ่มต้นวางแผนโครงการสำรวจ "เมืองอโยธยา"

ออกเดินทางจากคณะโบราณคดี
โดยรถแลนด์โรเวอร์ และรถจิ๊บ อาจารย์ วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์
เมื่อเวลาประมาณ ๘ นาฬิกา

รถแลนด์ไปก่อน
ส่วนรถจิ๊บ ซ่อมล้อหน้า
ซ่อมไม่ได้ กว่าจะออกจากกรุงเทพฯ เกือบ ๙ น.

รถวิ่งเลยรังสิตมาสักเล็กน้อย
รถเสียหลักเพราะคันส่งหลุด
วิ่งข้ามถนนไปตกลงในคูอีกข้างหนึ่ง
ทุกคนปลอดภัยดี
มีเพียงข้าพเจ้าคนเดียวเท่านั้น ที่เลอะเทอะเล็กน้อย
เพราะกระโดดลงจากรถลงไปในคู
ด้วยเกรงว่ารถจะคว่ำลงมาทางที่นั่ง
ต้องใช้รถบรรทุกฉุดขึ้นมาได้โดยไม่ลำบาก

ขึ้นมาได้แล้ว อ.วีรพันธุ์ จัดการซ่อมตรงนั้นเลย
เป็นเพราะแขนคันส่งล้อ
เมื่อตอนซ่อมไม่ได้ใส่น็อตไว้แน่นหนา
แต่พอขับ ๆ มา น็อตตัวยึดหลุด
เป็นเหตุให้บังคับล้อไม่อยู่
และ เสียหลักวิ่งตัดถนนไปลงคูอีกด้านหนึ่ง

โชคดีที่ไม่มีรถวิ่งสวนทางมา จึงไม่มีผู้เกิดอุบัติเหตุร่วม


ซ่อมเสร็จแล้ว อ.วีรพันธุ์ ขับรถต่อ ไปจนถึงอยุธยา
ตอนแรกกะจะให้พวกนักศึกษาชาย
ไปพักที่คุ้มขุนแผน

แต่ต่อมา เปลี่ยนแผนไปพักรวมกันทั้งหมดที่

บังกะโลศรีสมัย

โดยเช่าบังกะโล ๔ หลัง
อาจารย์ ๑ หลัง นักศึกษาชาย ๑ หลัง
นักศึกษาหญิง ๑ หลัง และคนขับรถ ๑ หลัง

เมื่อจัดคนเข้าที่พักครบแล้ว
ออกไปดูสถานที่ที่จะไปสำรวจหา

เมืองโบราณอโยธยา พอเป็นสังเขปไว้ก่อน

โดยไปเริ่มวางจุดที่ "วัดสมณะโกษฐาราม"
ทางฝั่งตะวันออก นอกเกาะเมืองอยุธยา

ดู "วัดขี้หมู" โดยเข้าทางวัดจักรวรรดิ์
และ วัดประดู่ทรงธรรม ซึ่งมีทางเดินไปติดทางรถไฟ

"วัดจักรวรรดิ (วัดเจ้ามอญ)"
เป็นวัดร้างอยู่ปากทางเข้าวัดประดู่ทรงธรรม
ยังไม่ได้ทำการสำรวจโดยละเอียด
จึงเลยไปที่วัดประดู่ทรงธรรม (ใหม่)
ที่อยู่ในบริเวณเดียวกับวัดประดู่โรงธรรม (ชื่อเดิม)

ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นโคกวัดร้างอยู่ทางด้านทิศเหนือของวัดใหม่

อาณาบริเวณของวัดล้อมรอบด้วยคูน้ำ ซึ่งตื่นเขินไปมาก
ส่วนคูน้ำด้านทิศตะวันตก

จากการสอบถามได้ความว่า
จะเชื่อมไปบรรจบกับคลองบ้านม้าที่ “วัดนางคำ”
ปัจจุบันยังเห็นร่องรอยได้อย่างชัดเจน

ส่วนทางเหนือของวัด มีคลอง ๆ หนึ่ง ซึ่งเรียกว่า

“คลองวัดประดู่ทรงธรรม”
คลองนี้ตื้นเขินและรกไปด้วยป่าชัฏ
คลองนี้จะไปตัดกับทางรถไฟ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “อุโมงค์”
อยู่เลยโรงเลื่อยไปทางเหนือเล็กน้อย
แนวคลองนี้จะเห็นชัดไปโดยตลอด

เมื่อข้ามทางรถไฟไปจะพบ “วัดขี้หมู”
อยู่ตรงทางค่อนข้างไปทางโรงเลื่อย

ซึ่งวัดนี้ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศว่า
อยู่ตรงกลางเมืองโบราณพอดี

จึงควรแก่การสนใจ
แต่พบว่าเป็นป่ารกชัฏเช่นเดียวกัน
บริเวณโคกวัดมีเศษอิฐ กระเบื้องเกลื่อนกลาดไปหมด
ริมวัดทางด้านทิศเหนือยังพอมองเห็น

ลำคูที่ขุดรอบวัดอยู่บ้าง แต่เลือนเต็มที หยุดการสำรวจ


ในกรอบสี่เหลี่ยมสีแดง คือ ที่ตั้ง "บังกะโลศรีสมัย" เดิม ปัจจุบันคือ "ไอยราเฮาส์"


บริเวณวัดที่ตรวจสอบก่อน จะเลือกหาสถานที่ขุดชั้นดินตรวจสอบความเป็นเมืองอโยธยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น