วันอาทิตย์ที่ ๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๔
๘.๓๐ น. ออกเดินทางจากคณะโบราณคดี
เลยดอนเมืองไปนิดหน่อย
เกิดอุบัติเหตุ
รถที่นั่งมาชนกับรถอื่น ๆ
รวมทั้งถูกรถชนท้าย รวมแล้ว ๔ คัน
ความจริงเราผิด
เคราะห์ดี รถสองแถวมาชนอีกที
ความผิดเลยไปตกอยู่ที่รถคันหลัง วุ่นวายอยู่พักใหญ่
ตลอดระยะทาง รถติดมาก
เพราะชาวกรุงเทพฯ เชื้อสายจีน เดินทาง
ไปไหว้บรรพบุรุษที่ฝังไว้ที่สุสาน แถว จ.สระบุรี
ทำให้เส้นทางสายนี้
แม้จะอยู่นอกกรุงแล้ว
แน่นหนาไปด้วยรถนานาชนิดเป็นพิเศษ
ตลอดเส้นทางเกิดอุบัติเหตุแบบเดียวกัน ไม่ต่ำกว่า ๕ ราย
๑๓.๓๐ น. แวะกินข้าวที่หินกอง
รอรถบัสคันใหญ่ที่บรรทุก
พวกที่จะไปขุดกับเขมร
และขอติดรถมาเที่ยวด้วย
รออยู่ ๔ ช.ม. เศษ คิดว่ารถเป็นอันตราย
อาจารย์ วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์
ขับรถแลนด์กลับไปดูถึงดอนเมือง
ไม่พบ หัวเสียมาก
รถแลนด์ก็ชำรุดเสียหายหลายแห่ง
แล่นมาถึงประมาณ พุแค
รถแลนด์สายพานขาด
ต้องอาศัยการแก้ไขฉุกเฉิน คือ
เอาสายพานที่ขาดมาเฉพาะเส้นเชือก (เหนียวมาก)
ผูกให้หมุนเฉพาะพัดลมเท่านั้น
วิ่งต่อมาจนเลยพระพุทธบาท เล็กน้อย
จึงหาสายพานใหม่เปลี่ยนได้
ถึงจังหวัดลพบุรี เกือบ ๑๘ น.
พบรถบัสจอดอยู่ที่วังนารายณ์ราชนิเวศน์
รถบัสกลับกรุงเทพฯ
ส่วนพวกที่อยู่ก็ไปพักบ้าน
อาทิตย์ แก้วผลึก (เจี๊ยบ ) นักศึกษา ปี ๒ (โบราณคดี รุ่น ๑๕ )
กลางคืนออกไปที่ศูนย์การฝึกวชิราลงกรณ์
ติดต่อขอยืมรถ
พบผู้พันที่สโมสร
เสร็จภารกิจแล้วกลับออกมากินอาหารข้างนอก...ถูกมาก
ตอนไปที่ศูนย์ฝึก
พบพวกโดดร่มที่ไปตกในแดนลาวและรอดมาได้
(ที่ตกเพราะเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ )
จ.ส.ต. คนนั้นเล่าและตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องการโดดร่ม
และเรื่องราวของนักโดดร่มให้ฟัง น่าสนใจดี
แต่ตอนนี้ออกจะลืม ๆ ไปแล้ว
อาจารย์ วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์ ,พ.ศ.๒๕๑๕
ยานพาหนะ จิ๊ปส่วนตัว อาจารย์ วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์ กับนักศึกษา ผู้ร่วมเดินทางไปใช้ในการขุดค้นที่ซับจำปา 2514
อาจารย์ วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์,พ.ศ.๒๕๕๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น