ตอน : วัดร้าง กลุ่มคลองสระบัว (๓)
วัดจงกลม เดินเยื้องออกไปจากวัดเจ้าย่า (วัดพรหมกัลยาราม) ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ยังคงมีเจดีย์เหลืออยู่ ๒ องค์
ระหว่างเจดีย์นั้น คงจะเป็นซากวิหาร วัดมีป่าปกคลุมมาก
เจดีย์องค์ทิศเหนือ มีลักษณะเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยม
ถัดขึ้นไปเป็นฐานเขียง
เหนือฐานเขียงขึ้นไปมี
พระพุทธรูปปางลีลาเวียนไปโดยรอบพระเจดีย์
ตอนบนเป็นองค์ระฆัง บัลลังก์ คอเจดีย์ ( ก้านฉัตร) และปลียอด ซึ่งยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก
ด้านทิศใต้ของเจดีย์ มีรอยถูกเจาะขุดค้นเข้าไปข้างใน
แต่เดิมคงจะเป็นทางเข้า
ภายในคูหานั้น เห็นได้ว่า
เป็นการสร้างสวมคลอบทับซ้อน
เจดีย์องค์เก่า (เจดีย์เล็ก) ไว้ภายใน
เห็นรอยปูนที่ฉาบเจดีย์องค์ใน
ที่ถูกการก่ออิฐสมัยต่อมาทับเสริมเป็นเจดีย์องค์ใหญ่
ที่เห็นภายนอก
เจดีย์องค์นี้ น่าอนุรักษ์ให้เห็นระบบของการก่อสร้างไว้
เพื่อการศึกษาต่อไปด้วย
ระหว่างเจดีย์องค์ทิศเหนือ
กับ เจดีย์องค์ทิศใต้ มีอาคารวิหารหลังหนึ่ง
มีชิ้นส่วนพระพุทธรูปศิลาทรายขนาดใหญ่
อยู่ตรงบริเวณฐานชุกชี
วิหารถูกปกคลุมด้วยป่าและหญ้ารก
ถัดเยื้องวิหารหลังนี้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
มีซากโบสถ์หรือวิหารไม่ปรากฏชัด
แต่มีซากเหลืออยู่ค่อนข้างมาก คือ
เหลือกำแพงทั้งสี่ด้าน
แต่ภายในถูกขุดหาของจนยับเยิน
หน้าต่างถูกเจาะกว้างออกไป
มีประตูทางเข้าด้านหน้าสองทาง
ประตูด้านหลังก็คงจะมีเหมือนกัน
แต่มีร่องรอยของการก่ออิฐปิดทั้งสองช่อง
ทำให้เห็นได้ว่า
ในชั้นต้น มีประตูทางเข้าออก หน้าหลัง ด้านละ ๒ ประตู
แต่ต่อมาในระยะหลังได้ก่อปิด ๒ ประตูหลัง
เหลือไว้แต่ ๒ ประตูหน้า
ซึ่งมีพาไลยื่นออกมาอีกประมาณ ๒ เมตร
และมีบันไดขึ้นทั้งสองข้าง
ถัดจากอาคารหลังนี้ไป
มีเจดีย์รูปทรงแปลกประหลาดอยู่องค์หนึ่ง
น่าสนใจ คือ ฐานเป็นทรงจตุรัสขนาดใหญ่
ถัดขึ้นไปเป็นบัวคว่ำ มีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้าน
มีกำแพงเจาะเป็นแบบช่องลูกกรงโดยรอบ
ทำให้ฐานชั้นนี้เป็นฐานลานเดินประทักษิณ
ได้รอบเจดีย์ที่อยู่ชั้นใน
ที่เป็นเจดีย์แบบย่อมุมไม้สิบสอง
ได้สเก็ตภาพไว้แล้ว โดยประมาณ
วัดในกลุ่มนี้ มีน่าสังเกตประการหนึ่ง คือ
หมู่บ้านตามริมคลองสระบัว
ตั้งแต่วัดตะไกรขึ้นไปตามลำน้ำโดยตลอดคลอง
ประชาชนมีอาชีพในการปั้นหม้อ
เผากระเบื้องมาแต่โบราณ
เพราะในบริเวณนี้ จะมีโคก มีเนิน
ที่มีเศษหม้อ เศษกระเบื้องกระจายอยู่โดยทั่วไป
จนถึง “วัดพระยาแมน”
ซากเตาเผาอิฐ เผากระเบื้อง ทั้งเก่าและใหม่ มีปะปนกันอยู่มาก จนคิดว่า ย่านนี้จะเป็นแหล่งอุตสาหกรรม
ทำ หม้อ อิฐ และ กระเบื้อง
มาตั้งแต่สมัยอยุธยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น