Best Thai History

Amps

วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

อัตชีวประวัติปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์ ) ตอน จันทรมณฑล ที่วัดเกษ คุ้มขุนแผน

อัตชีวประวัติปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์ )

ชีวิตตกภูมิ"คนต้องขื่อคา" พ.ศ.๒๕๑๓

ตอน : จันทรมณฑล ที่วัดเกษ คุ้มขุนแผน

ข้าพเจ้าโดนพิพากษาตัดสินให้ ต้องรีไทร์
ออกจาก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๑๒
ร่วมกับเพื่อนพี่น้อง อีกหลายชีวิต

เราไปตามทางของเรา อย่างไม่ท้อถอย
แม้จะมีความรู้สึกน้อยเนื้อ ต่ำใจบ้าง
ก็เป็นเรื่องธรรมดา

ของสัตว์โลก ที่ยังต้องวนเวียนอยู่วัฏสงสาร

เช่นเดียวกันกับข้าพเจ้า ที่ยังวนเวียน
อยู่กับสิ่งที่รักและผูกพัน
แม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ เพียงสองปีที่ผ่านมา

วันอาทิตย์ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๒
คณะโบราณคดี มีการพานักศึกษา
ไปฝึกหัดขุดค้นและขุดแต่งโบราณสถาน

“ศาลพระกาฬ” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เมื่อมีเวลาว่าง ข้าพเจ้าก็ขอเข้าไปร่วม ดู กับเขาด้วย
แม้จะไม่ได้ขุดด้วยก็ตาม

อาจารย์คงเดช ประพัฒน์ทอง (พี่ขุน)
ก็เมตตาให้กางเต็นท์ นอนใกล้ ๆ กันที่ "วัดเกษ"
ไม่ห่างไกลจาก คุ้มขุนแผน
ที่พักของนักศึกษาทั้งหมดที่มาในครั้งนั้น

คืนวันนั้น
พระจันทร์เต็มดวง ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แจ่มใส

ใกล้เที่ยงคืน เงียบสงัดดีแล้ว
ข้าพเจ้ากับพี่ขุน สองคนอาจารย์กับลูกศิษย์
ก็พากันลุยหญ้ารก เข้าไปที่หน้า วิหารวัดเกษ

พี่ขุน ว่า จะทำพิธี “จันทรมณฑล”
คือ การกำหนดดวงจันทร์ที่เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา
ให้เห็นเงาอยู่ในน้ำในขัน
แม้พระจันทร์ จะเคลื่อนที่ไปแล้วก็ตาม

โดย นำขันสำริด ที่ใช้ประจำตัว
บรรจุน้ำเกือบเต็มขัน
แล้วตั้งไว้เบื้องหน้า
ภาวนาพระคาถา (ไม่ได้บอกเสียด้วย ว่าเป็นบทไหน )

หากสำเร็จ
เอาน้ำนั้นมาล้างหน้า เป็น ศิริมงคล นัก

ข้าพเจ้า นั่งเงียบสงบอยู่ด้านหลังอาจารย์ พี่ขุน
ด้วยหัวใจไม่ปกตินัก
เพราะความสงัดเงียบและวังเวงของพื้นที่

พักใหญ่ ๆ ก็บังเกิด

วาตะพายุหมุนขึ้น
จนฝุ่นฟุ้งกระจายเป็นลำ
ไปในท่ามกลางแสงจันทร์

ไม่ทันได้เห็นเงาจันทราในขัน
อาจารย์กับลูกศิษย์ สองคน
ก็เปลี่ยนใจ เดินตามพายุหมุนนั้นไป

ช่างหน้า อัศจรรย์ใจ
ที่พายุหมุน นั้น
หมุนเวียนจาก "วัดเกษ"ไปที่ "ศาลพระกาฬ"

และหมุนหายลงไปท่ามกลางโบราณสถาน
ที่ขุดแต่งแล้วเห็นเป็นรูปเหมือนห้องฐานอาคาร

เราสองคนกลับมาที่เดิม ก็มิได้เห็นเงาจันทรา ดังที่ตั้งใจไว้

เป็นอันจบรายการ "พิธีจันทรมณฑล" แต่เพียงนี้

กลับไปนอน ( โปรดติดตามตอนต่อไป)


เจดีย์ประธาน "วัดเกษ" สี่แยกตะแลงแกง ใกล้คุ้มขุนแผน (คุกหลวง) พระนครศรีอยุธยา เมื่อยังค่อนข้างสมบูรณ์ทั้งองค์




"วัดเกษ" สี่แยกตะแลงแกง ใกล้คุ้มขุนแผน (คุกหลวง) พระนครศรีอยุธยา เมื่อยอดบนพังลงมาแล้วก่อนการขุดแต่งและบูรณะ ( ก่อน พ.ศ.2525 )


"วัดเกษ" สี่แยกตะแลงแกง ใกล้คุ้มขุนแผน (คุกหลวง) พระนครศรีอยุธยา เมื่อยอดบนพังลงมาแล้ว หลังขุดแต่งและบูรณะแล้ว (พ.ศ.2525 - ปัจจุบัน )


คุ้มขุนแผน (ภาพ:สุรเจตน์)


อาจารย์ คงเดช ประพัฒน์ทอง (พี่ขุน) ควบคุมนักศึกษาคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ขุดแต่ง ศาลพระกาฬ พ.ศ.๒๕๑๒


วัชรินทร์ (ปฏิพัฒน์) ปี ๒๕๑๒ ( อายุ ๒๐ ปี)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น