Best Thai History

Amps

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

อัตชีวประวัติปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์ ) ชีวิตตกภูมิ"คนต้องขื่อคา" พ.ศ.๒๕๑๓ ตอนที่ ๕

ตอนที่ ๕ : สำรวจวัดทางเหนือเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา (๑)

วันอังคารที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๓

เมื่อวานมีคนมาร่วมสมทบในการสำรวจ
และกลับกรุงเทพฯ ไปบ้าง จึงเหลือคนที่อยู่สำรวจ เพียง ๖ คน
มี พี่สุจิตต์ วงษ์เทศ, อารักษ์ คคะนาท, สุรพล ดำริห์กุล, พี่จำกัด ผ่องใส,พุฒิ วีระประเสริฐ,และข้าพเจ้า

ออกทำงานในตอนเช้าตามปรกติ คือ ๐๗.๓๐ น.
แต่ลงสนามประมาณ ๐๘.๓๐ น.
วันนี้เริ่มต้น ที่ "วัดหัสดาวาส (วัดช้าง)" เหนือ วัดหน้าพระเมรุ

สภาพของวัดหัสดาวาส รกชัฏมาก

นิตย์ รัตนสัญญา ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายภาพ กลับ กทม.
จึงต้องทำหน้าที่ถ่ายรูปเอง
ดังนั้น จึงมีหน้าที่ทั้งจดบันทึก และถ่ายรูปด้วย
แต่ดูท่าจะไปไม่รอด จึงต้องยกหน้าที่ถ่ายรูปให้คนอื่นไป

วัดช้าง หรือ วัดหัสดาวาส
มีเจดีย์ ๒ องค์ องค์ทิศตะวันออกถูกปกคลุมด้วยวัชพืชมาก
ส่วนองค์จะวันตกปกคลุมไม่มากนัก
พอเห็น ลวดลายและลักษณะเจดีย์ได้ทั้งองค์

เสาหารที่วัดนี้ น่าสนใจมาก
เพราะทำเป็นรูป พระพุทธรูปหรือเทวดา ? อยู่โดยรอบ
แทนเสาหารที่ทำเป็นต้นเสา

ออกจากวัดหัสดาวาส
เดินลัดพงหญ้าฝ่าพงหนามไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ ๑๐๐ เมตร

ถึง “วัดโคกพระยา”
แต่ชาวบ้านเรียก “วัดโคกแสง”

ณ ที่นี่ ยังมีเจดีย์ประธานองค์ใหญ่ ค่อนข้างสมบูรณ์
แต่ถูกปกคลุมด้วยหญ้ารก และ ต้นไม้ใหญ่
ฐานแปดเหลี่ยมเป็นวงซ้อนกันขึ้นไปจนถึงองค์ระฆัง
ปากองค์ระฆังผายออกมากกว่า
วัดทางทิศตะวันออกของตัวเกาะเมืองเล็กน้อย

บรรดาโบราณวัตถุ เช่น พระพุทธรูป หรือ อื่น ๆ แตกหายกระจัดกระจายไปหมดแล้ว
ที่ยังคงเห็นชัดถนัดเป็นรูปร่าง ก็คือ
“ช้างหิน” ที่แตกหักอยู่ในบริเวณนั้น

ออกจากวัดโคกพระยา เยื้องไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถึง

“วัดไผ่ล้อม”

ถูกปกคลุมด้วยหญ้ารก เหลือเพียงผนังอาคาร
ส่วนจะเป็นโบสถ์ หรือ วิหาร
ไม่ปรากฏหลักฐานประกอบชัดเจน
ที่ยังคงอยู่ได้ เพราะมีรากไม้ ต้นไม้ยึดไว้
ไม่อย่างนั้น คงล้มไปนานแล้ว

ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ "วัดไผ่ล้อม"
มีวัดร้างวัดหนึ่ง ไม่ปรากฏชื่อในแผนที่
ชาวบ้านเรียกชื่อ “วัดสุทิชา”

ยังคงเหลือ กำแพงวิหารเล็กน้อย
อยู่ด้วยแรงดึงยึดไว้ของต้นไม้ใหญ่

มีร่องรอยของปรางค์ หรือเจดีย์ ที่ถูกขุดค้นหาของกระจุยแล้ว
อยู่ทางด้านทิศตะวันออกองค์หนึ่ง

ยังคงเหลือลวดลายปูนปั้นที่ค่อนข้างสวยงาม
ตกหล่นอยู่ในบริเวณนั้น ด้วย
ลักษณะของลวดลายใกล้เคียง
หรือเหมือนกันกับที่วัดภูเขาทอง
แต่ฝีมือหยาบกว่า

ลวดลายหน้าบันปูนปั้นที่พบในบริเวณนั้น
ก็สวยงามไม่เลว
ดูตามลักษณะวัดนี้แล้ว คงจะไม่ใช่วัดเล็ก

จากวัดสุทิชาไปทางเหนือ มีวัดร้างชื่อ “วัดครุฑ”
ถูกทำลายย่อยยับไปหมดแล้ว
อาณาเขตวัดครุฑออกไปจนติดบ่อน้ำหลังไฟฟ้า ริมทุ่งขวัญ

ใกล้ ๆ มี วัดอีกวัด อยู่บนเนินเล็ก ๆ
ติดกับที่ผลิตไฟฟ้า
โคกวัดถูกไถเรียบกลายเป็นป่าละเมาะเล็ก ๆ
อยู่รินทางหลวง ไป จังหวัดอ่างทอง

ชาวบ้านบอกว่า พระพุทธรูปที่เคยอยู่ที่วัดนี้
ก่อนสร้างเสาไฟฟ้าแรงสูงลงบนโคกวัด
ได้ย้ายไปไว้ที่ศาลาริมถนนแทน.

ปัจจุบันเป็นสถานที่ทำบุญใหม่ ใหญ่โตขึ้นมากกว่าเดิม
มีชื่อใหม่ ว่า

"วัดพระแก้วฟ้าน้อย"








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น