ขึ้นเมืองเหนือ ครั้งแรกในชีวิต
ตอน ๔ : ๓ วันในเชียงแสน ( ๑๑ - ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๐ )
วันจันทร์ที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๐
เดินไปรับประทานอาหารเช้าที่ตลาด ริมแม่น้ำโขง
ระหว่างทางเดินกว่าจะถึงแม่น้ำโขง
หมอกที่ลงหนาเห็นเป็นละอองขาวบาง ๆ กระจายอยู่ทั่วไป
เมื่อปลิวมากระทบกับความร้อนของร่างกาย
จึงกลั่นตัวเป็นไอน้ำเกาะบนเสื้อผ้าจนเปียกชื้น,
เหนือแม่น้ำโขง หมอกลงหนาจนมองไม่เห็นฝั่งประเทศลาว,หมอกจะค่อย ๆ ลดลงจนหายไปเมื่อแสงแดดกล้าแข็งขึ้น แต่ความหนาว ก็ไม่ได้ลดลงไปตามเวลา
พี่วิพากษ์ ศรทัตต์ ผู้ช่วยหัวหน้าหน่วยศิลปากรที่ ๔ ประจำอยู่ พิพิธภัณฑ์ฯ เชียงแสน (โบราณคดี รุ่น ๕ ,ปีการศึกษา ๒๕๐๒ ) เล่าถึงความหนาวของอากาศ ที่เชียงแสนว่า
บางวันอากาศหนาวมากจนถึงมีลูกเห็บตก และละลายหายไปในตอนเช้า
วันนี้ ตอนบ่าย ข้ามไปฝั่งลาว นั่งเรือไปกลับ ๒ บาท คนเบี้ยน้อยหอยน้อย ซื้อบุหรี่เป็นที่ระลึกมาได้ ๒ - ๓ ซอง เพราะซองแปลก ไม่เหมือนซองบุหรี่บ้านเรา
สภาพความเป็นอยู่ของชาวเชียงแสน
ก็เหมือนกับชาวบ้านตามหัวเมืองเหนือทั่ว ๆ ไป
เพียงแต่ว่า
สาวเชียงแสนสวยมากกว่าสาวเชียงใหม่
คืนนี้ มีการเลี้ยงต้อนรับ อาจารย์ มานิต วัลลิโภดม คุณพ่อของอาจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม ที่หน้าบ้านรับรองในหน่วยศิลปากร เลยไม่ต้องออกไปหากินอาหารนอกหน่วยฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น