วัดบรมพุทธาราม

วัดบรมพุทธาราม

วัดบรมพุทธาราม

ตามหาวัดในคำให้การขุนหลวงหาวัด (ต่อ)

วัดบรมพุทธาราม

“คำให้การขุนหลวงหาวัด” ฉบับภาษาอังกฤษ ที่ถอดมาจาก Yodaya Yazawin (หน้า69-70) ภาษาพม่า กล่าวถึง วัดที่พระราเมศวร หรือ (พระเพทราชา )ทรงปฏิสังขรณ์ คือ Buraparim Monastery (หมายเหตุ ต้นฉบับ เขียนว่า Puraparima )

“คำให้การขุนหลวงหาวัด”ฉบับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (หน้า ๖๙) อันพระธาดาธิเบศร ซึ่งเป็นวังหลวงนั้น จึงสร้าง วัดบูรพาราม วัดหนึ่ง

“คำให้การขุนหลวงหาวัด”ฉบับหอหลวงเมืองพม่า ความว่า พระราเมศวรให้สร้างวัด ขึ้น ๔ วัด คือ วัดบูรบาริม วัด ๑

ในพระราชพงศาวดารพระนครศรีอยุธยา ฉบับบิติชมิวเซียม (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๘๒ ) กล่าวถึงเหตุการณ์ในรัชกาล สมเด็จพระเพชราชา ตอนหนึ่งว่า

“แต่ปีกุน เบญจศก แล้วนั้น (ในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา มี ปีกุน ครั้งเดียว คือ ปี พ.ศ.๒๒๓๘ เป็นปีที่ ๘ ในรัชกาล ) สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระดำริว่า ที่บ้านหลวง ตำบลป่าตองนั้น เป็นที่มงคลสิริราชฐานอันประเสริฐ สมควรจะสร้างเป็นพระอาราม มีพระอุโบสถ วิหารการเปรียญ พระเจดียฐาน กำแพงแก้ว และกุฎีสงฆ์ ศาลา สะพาน เว็จกุฎี พร้อม แล้วทรงพระกรุณาให้หมื่นจันทรา ช่างเคลือบ ทำกระเบื้องเคลือบสีเหลืองมุงพระอุโบสถ วิหารทั้งปวง และการสร้างพระอารามนั้น ๓ ปีเสร็จ จึ่งสำเร็จในปีขาล อัฐศก (พ.ศ.๒๒๔๑ ) แล้วพระราชทานนามบัญญัติพระอาราม ชื่อวัด บรมพุทธาราม ตั้งเจ้าอธิการ ชื่อพระญาณสมโพธิ ราชาคณะคามวาสี ครองพระอาราม”

คำให้การขุนหลวงหาวัด ฉบับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (หน้า ๑๘๘) กล่าวว่าด้วย เรื่องสะพานในพระนคร ว่า “คลองประตูชัยตรงเข้ามาถนนตะแลงแกงมุมวัดป่าใน มีสะพานไม้ข้ามคลองริมพระคลังสินค้าไกลป่าตองและเดินข้ามเข้าไปวัดบรมจักรวรรดิ ชื่อสะพานวัดจักรวรรดิ ๑ มีสะพานอิฐข้ามคลองหน้าวัดบรมพุทธารามข้ามมาถนนป่าดินสอ”

คำให้การขุนหลวงหาวัด ฉบับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (หน้า ๒๑๙-๒๒๐) กล่าวถึงตำแหน่งยศพระสงฆราชาคณะฝ่ายขวา มีพระราชาคณะเปนวัดขึ้น ๑๗ วัด ...มีพระญาณสมโพธิ อยู่วัดป่าตอง ๑

จากหลักฐานทางด้านเอกสารและโบราณสถาน สอดคล้องกัน พอจะอนุมานได้ว่า วัดบูรพาราม Buraparim Monastery (ต้นฉบับ เขียนว่า Puraparima ), วัดบูรบาริม, วัดบรมพุทธาราม และ วัดป่าตอง เป็นวัดเดียวกัน