พระพุทธรูป ในมณฑปพระจุฬามณี (เจดีย์ทอง)
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
อัญเชิญมาชุดเดียวกับ วัดพระเชตุพนฯ
เอกสารเลขที่ ๙/ก กองเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติ
เรื่อง“กระแสพระบรมราชโองการ"
ความตอนต้น ว่า
“ศุภมัศดุ พระพุทธศักราชล่วงแล้ว ๒๓๓๗ พระวะษา ตยุล (จุล)ศักรา ๑๑๕๖ ปีขาล ฉ้อศก
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมธรรมิกมหาราชาธิราชเจ้า
พระองค์ปรารถนาพระบรมโพธิญาณ
ทรงพระราชศรัทธาธิคุณเปีนอัคสาสนูปถัมภกพระพุทธศาสนา
ทรงพระราชกุศลจินตามัยญาณไปว่า
พระพุทธรูปพระนครใด
ที่ท่านผู้ทานาธิบดีศรัทธาสร้างไว้แต่ก่อน
บัดนี้หามีผู้จะทำนุบำรุงปฏิสังขรณ์ไม่
ประหลักหักพังยับเยินเป็นอันมาก
เป็นที่หมิ่นประมาทแห่งบุคคลอันตพาล และมิจฉาธิษฐิ
ทรงพระราชดำริไปก็บังเกิดสังเวชในพระบรมพุทธาวิฐารคุณเป็นอันมาก
จึ่งมีพระราชบริหารดำรัสสั่งให้
พระยารักษมนเทียรกรมวัง หลวงสมเดจพระขรรคกรรมพระแสงใน
ขึ้นไปเชิญเสด็จพระพุทธรูป ณ เมืองสุโขทัย
ผู้รั้งกรมการกับข้าหลวงจัดเรือขนานมีร่มตลอดหัวท้าย
มีฉัตรธงปักรายแคม
แล้วเชิญเสด็จพระพุทธรูปเจ้าลงเรือล่องลงมายังกรุงเทพมหานครศรีอยุธยา
จึงเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ ณ พระอารา พระเชตุพน
อัญเชิญล่องเรือแพ ประมาณ ๒ เดือนเศษ ก็มาถึง ณ วัน ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ขาล ฉศก ( ตุลาคม พ.ศ.๒๓๓๗ )
พระพุทธรูปที่อัญเชิญมาในครั้งนั้น มีขนาดต่าง ๆ กัน
รวมแล้วทั้งสิ้น ๑,๒๔๘ พระองค์
ให้ช่างหล่อต่อพระเศียร พระหัตถ์ พระบาท
แปลงพระพักตร์พระองค์ให้งาม (เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ) แล้ว
ทำการประดิษฐานพระพุทธรูปเหล่านั้น....
นอกจากพระพุทธรูปขนาดใหญ่แล้ว
ยังมีพระพุทธรูปที่อื่นอีก ๘๗๒ องค์
ที่ประดิษฐานตามพระระเบียงทั้งชั้นนอกชั้นในวัดพระเชตุพน
ที่เหลือนั้น ข้าทูลละอองธุลีพระบาท สัปรุษทายก
รับไปบูรณะไว้ในพระอารามอื่น
ข้อมูลที่มาบางส่วน จาก "การเมืองเรื่องจำนวน :
การรวบรวมทำบัญชี วัดขนาด และจำแนกพระพุทธรูปจากหัวเมืองเหนือในช่วงสร้างกรุงเทพฯ"
วิราวรรณ นฤปิติ
ดำรงวิชาการ
http://www.damrong-journal.su.ac.th › pdf
PDFการรวบรวม ทำบัญชี วัดขนาด และจาแนก พระพุทธรูป ...
ขอบคุณภาพประกอบจาก คณะเดินเท้าเล่าเรือง บุญมา วังหน้าพระยาเสือ
ส.๒๗ มกราคม ๒๕๖๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น