ชีวประวัติ ปี ๒๕๒๗
นักโบราณคดี พระนครศรีอยุธยา
ตอน...นักโบราณคดี ต้องทำได้ทุกอย่าง "กินผัดเผ็ดงูเห่า"
วันเสาร์ที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๖
ถีบรถจักรยานจากบ้าน"ยุพา"กลับมาคุ้มฯ
แล้วออกไปดูบริเวณที่มีข่าว ชาวบ้านขุดพบ โบราณวัตถุ
ในบริเวณสวนสมเด็จ เห็นคนมากมาย
ไม่ได้เป็นพระหรือกรุแตกแต่อย่างใด
แต่เป็น"พลอย" คุณภาพพลอยไม่ดี
หลังจากเอาจักรยานไปคืนบ้านยุพาแล้ว
"ตุ๊" พี่สาวยุพา ชวนไปหาหมูดู ที่ อ.บางปะอิน
นัยว่า "แม่นมาก เคยดูให้ตุ๊ ว่า “ตุ๊จะตายโหง”
และท่านเจ้าคุณ พระราชศีลสังวร (ช่วง)
วัดกลาง มัชฌิมาวาส จ.สงขลา ทักอีกครั้ง ว่า
"ถ้ามันไม่ถึงคราว มันก็จะมาหาท่านเอง"
และ "ตุ๊" ก็ไปจริง ๆ
ตัดกรรมหนักให้เบาลงได้อย่างน่าอัศจรรย์
แต่ตอนนี้ หมอดูคนที่ทำนายตุ๊
ไปบวชเป็นพระ อยู่ที่วัดอะไรจำไม่ได้เสียแล้ว แถวบางปะอิน
หลังรับประทานอาหารกลางวันแล้ว
กลับมาแวะดู "ฟาร์มงู"
เห็นเลื้อยกันยัวะเยียะไปหมด
เจ้าของฟาร์มว่า ไม่ต้องเสียค่าเลี้ยงดูอะไร
เพราะจับมาได้วันสองวัน
เขาก็จะจัดส่งออกนอกแล้ว
นัยว่าเป็นสินค้าออกที่น่าเกลียดน่ากลัวมากที่สุด
ระหว่างที่ไปยืนดู มีชาวฮ่องกง ๓ -๔ คน
มาดู และกำลังสั่ง "ดี" และ "เลือด" งู
กรรมวิธีในการทำเขาสะอาดมาก คือ
ล้างตัวงูด้วยเหล้า
และกรีดเอาเลือดงูใส่ลงไปในเหล้า
พร้อมทั้งดีงู ด้วย
หมอนั่นนั่งดื่มกินไปคนเดียวตั้ง ๓ ตัว
เป็นงูเห่าตัวหนึ่ง งูเหลือมตัวหนึ่ง
และงูสามเหลี่ยมอีกตัวหนึ่ง
เขาว่ากินแล้วเป็นยาชูกำลังดี
ราคาทั้งหมด ๓๐๐ บาท
กลับถึงบ้านยุพา
แม่ยุพาเป็นคนใจดีมาก
ผู้พันกำธร ซื้อ เนื้องูเห่ากลับมา
ให้แม่ยุพาทำเป็นอาหารให้กิน
"ผัดเผ็ดงูเห่าใส่มะพร้าวคั่ว"
แม่ยุพาก็ทำให้โดยไม่บ่นเลยสักคำ
ผู้พันกำธร คะยั้นคะยอให้เรากิน
เพื่อมิตรภาพ
ต้องฝืนใจกินไปกับเขา
ด้วยคำสองคำ ...พอไม่ให้น่าเกลียด
และให้เขารู้ว่า
"นักโบราณคดี ต้องทำได้ กินได้ทุกอย่าง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น