ชีวประวัติ ปี ๒๕๒๗
นักโบราณคดี พระนครศรีอยุธยา
ตอน...เมื่อนักโบราณคดี ต้องฟังคนทรง
"พูดกันไม่รู้เรื่อง...คนละภาษา"
หลังจากการขุดพบโครงกระดูหมายเลข ๑ แล้ว
คืนวันนั้น (๒๑ มี.ค.๒๗) ฝนตกหนักมาก
น้ำท่วมหลุม control pit
ลงไปทำอะไรไม่ได้
แต่ข่าวลือ เรื่องการขุดพบโครงกระดูก
แผ่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๗
เมื่อเราเดินทางไปถึง site มีผู้คนเดินทาง
เข้ามาเยี่ยมโครงการฯของเรา มาก
และมากันเรื่อย ๆ
มีหลายคนมาตักน้ำจากในหลุมที่พบโครงกระดูก นี้
เอาไปด้วย
ส่วนจะเอาไปทำอะไรนั้น ... ไม่มีใครแจ้ง
หลังจากนั้น เราขุดพบโครงกระดูกเพิ่มมากขึ้น ๆ
จนถึงวันเสาร์ที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๒๗
พบโครงกระดูก เป็นโครงที่ ๖
เรากำลังมึนงง
กับการได้พบโครงกระดูกเป็นจำนวนมาก
รวมทั้ง ไม่ทราบสาเหตุการตาย ว่า เป็นเพราะอะไร ?
ตายด้วยสงคราม
หรือว่าตายเพราะโรคภัยไข้เจ็บ
กำลังรวมหัวกันหาเหตุผล
มีทั้งนักประวัติศาสตร์ คือ นายพิรักษ์ ชวนะเกรียงไกร
นักโบราณคดี นอกจากเราแล้ว ยังมี
น.ส.มนตร์จันทร์ น้ำทิพย์,
น.ส.นรา ไทยเจริญพิภพ
น.ส.ธาดา สุทธิเนตร (ไม่แน่ใจว่า เข้ามารึยัง ณ เวลานั้น)
ฯลฯ
เพลานั้น คนงานก็เข้ามาแจ้งว่า
"มีคนมาขออนุญาต จะเข้าทรง,เราจะอนุญาตหรือไม่ ?"
เราตอบรับทันที...
เพราะ เผื่อการเข้าทรง จะได้เบาะแสอะไร
เกี่ยวกับ "ผีชาวอยุธยา"
สมัยเมื่อก่อน ๒๐๐ -๓๐๐ ปี เหล่านี้ ได้
ผมนึกว่า เขาจะนั่งภาวนา แล้ว
"ผี" มาเข้าแบบทั่ว ๆ ไป
เปล่าเลย
เขาลงไปนอนทาบบนโครงกระดูก
โครงที่อยู่ใกล้ต้นไม้ใหญ่ (ต้นนุ่น)ต้นหนึ่ง
โชคดี ว่า โครงนี้ค่อนข้างจะชำรุดมาก
พวกผม ก็ไปนั่งรอกันอยู่ที่ปากหลุม
รอดูอาการ และ คำพูดของคนทรง ว่า
จะแสดงอาการอย่างไร และพูดอะไรบ้าง
เธอนอนทับไปหลายนาที
แล้วก็ลุกขึ้นมา นั่ง
ผมไม่ยอมให้เสียโอกาส รีบถามคนทรงทันที ว่า
"เขาว่าอย่างไรบ้าง ? "
คนทรงตอบหน้าตาเฉย ว่า....."พุดกันไม่รู้เรื่อง คนละภาษา"
แล้วก็ลุกขึ้นกลับออกไป
จบกัน...โอกาสที่นักโบราณคดี จะพึ่งคนทรง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น