เที่ยวแล้วกลับมาเล่า
เพชรบุรี ๑๘ - ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๖
ตอน : พระอุปคุตปราบพญาวัสสวดีมาร
เมื่อบรรลุฤกษ์งามยามดี ตามที่กำหนดไว้
บรรดาพระสงฆ์ขีณาสพ และพระสงฆ์ปุถุชน
ตลอดจนพุทธศาสนิกชน
ทั้งในนครปาตลีบุตร และต่างแดนจากจตุรทิศ
ก็เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่บริเวณงาน
พร้อมเครื่องสักการบูชา
เพื่อร่วมพิธีฉลองสมโภช
พระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในมหาเจดีย์ และเจดีย์
ทั้งแปดหมื่นสี่พันองค์
ด้วยความเลื่อมใส ศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง
และในเวลานี้เอง
พญามาร (พญาวัสสวดีเทพบุตรมาร)
ก็มุ่งหน้าเข้ามาในงานกับเขาเหมือนกัน
ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะก่อความวุ่นวาย ต่างๆ นานา
ทั้งบันดาลให้เกิดลมพายุ
ทั้งแปลงร่างเป็นสัตว์ป่า และสัตว์หิมพานต์
แต่ทุกครั้งก็โดนพระอุปคุตเถระ
กำราบได้หมด
และสุดท้าย
เพื่อให้พญามาร ออกไปจากบริเวณพิธี
พระอุปคุตเถระ จึงเนรมิตร่างหมาเน่าขึ้นมาตัวหนึ่ง
แล้วดึงประคตจากเอวของท่าน
ออกมาผูกร่างหมาเน่านั้น คล้องคอพญามารไว้
แล้วสำทับว่าไม่ว่าใครก็ตาม (นอกจากท่านเอง)
จะเอาหมาเน่านี้ออก จากคอพญามารไม่ได้
แล้วขับพญามารออกไป จากบริเวณงานทันที
ด้วยความอับอาย พญามารก็ออกมาจากบริเวณงาน
และพยายามแก้ร่างสุนัขเน่าออก
ด้วยฤทธานุภาพ
แต่ทำอย่างไร ก็ไม่สามารถแก้ได้
เพราะเมื่อเอามือทั้งสอง
ต้องสายประคตที่คล้องคอทีไร
ต้องมีไฟลุกขึ้นไหม้คอ และมือทันที
สุดจะแก้ไขด้วยตนเองได้
ก็ไปหาที่พึ่งอื่น (ที่คิดว่าน่าจะช่วยได้)
แต่ถึงแม้จะไปหาท้าวมหาราชทั้งสี่
พระอินทร์ ท้าวยามา ท้าวสันดุสิต ท้าวนิมิตเทวราช
ตลอดจนท้าวสหัสบดีพรม
ก็ไม่มีใครสามารถช่วยได้
ต่างได้แต่แนะนำว่า
ให้พญามารไปขอขมา และขอความเมตตา
จากพระเถระผู้นั้นเสียดีกว่า
พญามารได้ยิน
ดังนั้น จึงจำใจต้องกลับไปหาพระเถระ
อ้อนวอน ให้ช่วยเอาซากหมาเน่าออกจากคอให้
แล้วจะไม่มารบกวน การจัดงานอีก
พระอุปคุตเถระก็อนุโลมตาม
แต่ยังไม่ไว้ใจพญามารนัก
เกรงพญามาร จะกลับมาทำลายพิธีในภายหลัง
จึงเดินนำพญามาร ไปยังเขาใหญ่ลูกหนึ่ง
แล้วเอาร่างหมาเน่าทิ้งลงเหว
และเนรมิตให้สายประคตยาวขึ้น
แล้วพันคอพญามาร ไว้กับเขาลูกนั้น
พร้อมทั้งแจ้งว่า
เมื่อเสร็จพิธีฉลองสมโภช พระมหาเจดีย์สิ้นสุดลงแล้ว
จึงจะแก้โซ่ออก ปล่อยให้พญามารเป็นอิสระ (๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น