เล่าเรื่องเที่ยวเขมร ๒๕๖๕
ตอนที่ ๑๔ : ทับหลังในศาสนาพุทธ ที่ใช่และไม่ใช่
ที่ปราสาทเบ็งเมเลีย (บึงมาลัย)
มีทับหลัง ๒ แผ่น ที่ดูไกล ๆ แล้ว
เหมือนจะคล้ายกัน แต่ไม่เหมือน คือ
ทับหลังแผ่นที่ ๑
สลักแบ่งทับหลังเป็นสี่ส่วน คือ
ที่กึ่งกลาง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการบอกเล่าเรื่องราว
สลักเป็นรูป
เทพยกกรทั้งสอง เสมอเศียร
ประทับยืนย่อ
อยู่บนเทพพาหนะ ด้านหลังมีซุ้มเรือนแก้ว
ครั้งแรกคิดว่าเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ
แต่เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดด้วยสายตาแล้ว
น่าจะ เป็น "สิงห์"
ใต้สิงห์มีลายท่อนพวงมาลัยออกมาทั้งสองข้าง
ม้วนขึ้นไปแบ่งครึ่งของทับหลังส่วนบนกับส่วนล่าง
ด้านบนเป็นกระหนก
ด้านล่างเป็นลายม้วนก้านขด
ที่เสี่ยวของทับหลังทั้งสองข้างแกะสลัก
เป็นรูปสตรี นุ่งผ้ายาว ถือ ดอกบัว
ทับหลังแผ่นที่ ๒
ลักษณะการแบ่งองค์ประกอบของทับหลัง
เหมือนทับหลังแผ่นที่ ๑
ผิดกันที่ตรงภาพเล่าเรื่อง กล่าวคือ
ภาพที่กึ่งกลาง สลักเป็นรูปสิงห์?ทูนบัลลังก์พระพุทธรูปนาคปรก
(ถูกกระเทาะไปแล้ว เหลือแต่ หัวนาคเล็ก ๆ )
มีรูปสาวกนั่งพับเพียบที่เห็นชัด ๆ ๑ คน
และ ภาพที่เสี้ยว เป็น รูปสตรี นุ่งผ้ายาว
เหมือนทับหลังแผ่นที่ ๑ เช่นกัน
จากลักษณะการจัดองค์ประกอบของภาพบนทับหลังเช่นนี้
กำหนดอายุ ได้ว่า อยู่ในศิลปะยุคสมัย
ระหว่าง ปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๕ -ต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๖
ทับหลังทั้งสองแผ่นนี้
ยังอยู่ในที่เดิมของปราสาทประธานองค์เดียวกัน
ดังนั้น ความเป็นศาสนาพุทธแบบมหายานกับศาสนาฮินดู
จึงยังจะอยู่ร่วมกันได้เป็นอย่างดี
ที่ปราสาทเบ็งเมเลีย (บึงมาลา) แห่งนี้.
ทับหลังแผ่นที่ ๑ ศาสนาฮินดู ปราสาทเบ็งเมเลีย (บึงมาลา)
ส.๑๐ ธ.ค.๒๕๖๕
ตำแหน่งที่ทับหลังแผ่นที่ ๑ ตั้งอยู่ (in situ ) ปราสาทเบ็งเมเลีย (บึงมาลา)
ส.๑๐ ธ.ค.๒๕๖๕
ทับหลังแผ่นที่ ๒ ศาสนาพุทธนิกายมหายาน ปราสาทเบ็งเมเลีย (บึงมาลา)
ส.๑๐ ธ.ค.๒๕๖๕
ตำแหน่งที่ทับหลังแผ่นที่ ๒ ตั้งอยู่ (in situ ) ปราสาทเบ็งเมเลีย (บึงมาลา)
ส.๑๐ ธ.ค.๒๕๖๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น