หลักฐานการเริ่มต้น มี ชื่อบ้าน นามเมือง ในลพบุรี
หลักฐานชิ้นที่ ๒ เป็น
พระพุทธรูปยืน ไม่มีเศียร อีกองค์หนึ่ง
พบที่วัดมหาธาตุ เมืองลพบุรี
มีลักษณะทางประติมานวิทยา
กำหนดเป็น "ศิลปะแบบทวาราวดี "
( พุทธศตวรรษที่ ๑๓ - ๑๖ )
อายุอ่อนกว่า องค์แรกที่พบที่วัดข้อย ลพบุรี
สิ่งที่น่าสังเกต สำหรับพระพุทธูปองค์นี้ คือ
จารึกที่ฐานพระพุทธรูป
นักอ่านจารึก เรียกว่า
“จารึกบนฐานพระพุทธรูปยืนวัดมหาธาตุ เมืองลพบุรี (ลบ.๕) "
ตัวอักษรจารึก เป็นตัวอักษร
แบบ "หลังปัลลวะ" ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓
เนื้อความเป็น "ภาษาสันสกฤต" กล่าวถึงการสร้างพระพุทธรูป ว่า
"ตงฺคุรฺชฺชนาธิปตินา ศามฺพูเกศฺวรสูนุนา
นายเกนารฺชฺชเวเนยํ สฺถาปิตา ปฺรติมา มุเนะ"
คำแปล “นายกอารชวะ ผู้เป็นอธิบดีของชาว “ตังคุระ” และเป็นโอรสของผู้เป็นใหญ่ของ “ศามพูกะ” ได้สถาปนาปฏิมาของพระมุนี”
คำว่า “ศามพูกะ” ศาสตราจารย์ยอร์ช เซเดส์ สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเมืองใดเมืองหนึ่งที่อยู่ในบริเวณลุ่มแม่นํ้าเจ้าพระยา
ต่อมาได้มีการอ่านจารึก ที่ "ปราสาทพระขรรค์"
เมืองพระนคร ประเทศกัมพูชา
สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ (พ.ศ. ๑๗๒๔ - ๑๗๖๑ )
พบข้อความในโศลก บทที่ ๑๑๖ ว่า
“ ลโวทยปุรํ สฺวรฺณ- ปุรํ ศมฺวูกปฏฺฏนมฺ ชยราชปุรี จ ศฺรี- ชยสึหปุรี ตถา”
แปลว่า
“ลโวทยปุระ สุวรรณปุระ ศัมพูกปัฏฏนะ ชยราชปุระ และศรีชยสิงหปุระ”
รองศาสตราจารย์ ดร.ศานติ ภักดีคำ ตีความว่า
เมือง “ศัมพูกปัฏฏนะ” คือ คำในความหมายเดียวกัน กับ "ศามพูกะ"
ที่พบที่เมืองลพบุรี
แต่ ชื่อว่า "เมืองศามพูกะ" นั้น
อาจเป็นเมืองโบราณ "โกสินารายณ์"
อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ได้
เพราะ ชื่อ เมืองกล่าวเรียงอยู่ในระนาบเดียวกัน
ตามความเห็นของข้าพเจ้า (ปฏิพัฒน์) ว่า
"ถ้าพิจารณาจากลักษณะของพระพุทธรูป
ตัวอักษรและภาษา แล้ว
"ต่างเวลากันมาก"
ดังนั้น ชื่อ “ศามพูกะ”
ก็อาจจะเป็นชื่อเดิมของชุมชน
เมืองสมัยทวาราวดี ( พุทธศตวรรษที่ ๑๓ )
ที่ตั้งอยู่ที่เดียวกับ ลโวทยปุระ หรือ “เมืองลวะปุระ”
ซึ่งมาเกิดขึ้นภายหลังในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๘
ก็ได้เช่นเดียวกัน
ขอบคุณภาพประกอบ จาก Google
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น