กลับมาเล่าเรื่อง "ลวะปุระ สู่ พระนครศรีอยุธยา"ต่อ
แม้เมืองสุโขทัย - ศรีสัชนาลัย
จะประกาศเป็นอิสระไม่ขึ้นกับเมืองยโสธรปุระ แล้ว
แต่ก็ไม่ปรากฏหลักฐานว่า "เมืองยโสธรปุระ"
จะยังมีอำนาจอยู่ที่ "เมืองละโว้" หรือไม่
เพราะผู้ปกครองเมืองละโว้
ก็น่าจะมีอำนาจขึ้นมากพอสมควร จนถึงกับ
ในพงศาวดารเมืองละแวก บันทึกไว้ ว่า
ปี ศักราช ๑๒๖๘ จ.ศ.๗๐๘ ปีจอ อัฐศก ( พ.ศ.๑๘๘๙ )
สมเด็จพระรามาธิบดี
“มีพระราชโองการตรัสให้เจ้าไส้เจ้าเทวดา
จำทูลพระราชสาส์นเป็นทางพระราชไมตรี
มายังกรุงกำภูชาธิบดี
"สมเด็จพระมหานิภาร" มิไว้พระทัย
ให้จับเจ้าไส้เจ้าเทวดาฆ่าเสีย
หลังจากนั้น อีก ๕ ปี ( พ.ศ.๑๘๙๓) ต่อมา
สมเด็จพระมหานิภาร (พระบรมนิพพานบท) สวรรคต
พระสิทธานราชาผู้เป็นพระปิตุลาจึงขึ้นสืบราชสมบัติ
รักษาพระนคร ไว้ระยะหนึ่ง
นักพระลำพัง ได้เสวยราชสมบัติ เป็น
"พระบรมลำพงษ์ราชา" หรือ "พระลำพังราชาธิราช"
ขึ้นครองเมืองยโสธรปุระ (เมืองพระนคร)
พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ทุกฉบับ กล่าวตรงกัน ว่า
ในปี ศักราช ๗๑๒ ขาลโทศก ( พ.ศ.๑๘๙๓ ) วันศุกร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕
เพลารุ่งแล้ว ๓ นาฬิกา ๙ บาท (สมเด็จพระรามาธิบดี ที่ ๑ )แรกสถาปนา กรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา มหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์
แสดงให้เห็นว่า เมืองละโว้
เป็นเมืองเจ้าประเทศราช เมืองหนึ่ง
ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
ก่อนหน้าจะสถาปนาพระนครศรีอยุธยา.
และเริ่มตั้งตัวพร้อมที่จะประกาศตั้ง
เป็นรัฐอิสระ ใน ปี พ.ศ.๑๘๙๓
พร้อมกับการสวรรคต ของ "สมเด็จพระมหานิภาร" แห่งเมืองยโสธรปุระ
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Wikipedia
ยโศธรปุระ เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิเขมรในดินแดนเขมรต่ำ สร้างโดยพระเจ้ายโศวรรมันที่ 1 ต่อมาในสมัยพระเจ้าชัยวรรมันที่ 4 ได้เกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในเมืองยโศธรปุระ จึงย้ายราชธานีไปยังเมืองเกาะแกร์ ยโศธรปุระ
ที่ตั้ง: เสียมราฐ กัมพูชา
สร้าง: ปลายศตวรรษที่ 9
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น