ตามรอยมหาราช (๒๐)
“พระเจ้าออกเหงื่อ” หรือ “พระเจ้าแสนแซ (แส้)”
วันเสาร์ที่ ๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๕
เนื่องจากวัดพระธาตุกองมู มีพื้นที่คับแคบ
ไม่พอแก่การทำกิจกรรมในงานบุญ
เพราะชุมชนมีมากขึ้น
ประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๐ จึงได้สร้าง "วัดเวียงแหง" ขึ้นอีก ๑ วัด
และได้ไปอัญเชิญพระพุทธรูป องค์หนึ่ง
มาจากวัดร้างแห่งหนึ่งบนเนินเขา บ้านสันดวงดี
หรือ วัดพระธาตุ ดอยพระเจ้าออกเหื่อ หรือ วัดพระเจ้าแสนแส้
แล้วนำมาประดิษฐานไว้ที่ในวิหารในวัดเวียงแหง
พระพุทธรูปองค์นี้ มีชื่อเรียกว่า
“พระเจ้าออกเหงื่อ”
หรือ “พระเจ้าแสนแซ (แส้)”
ซึ่งหมายถึง พระพุทธรูปที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่
เวลาหล่อต้องแยกทำทีละส่วน
แล้วใช้เดือยหรือหมุดเชื่อมต่อกันหลายแห่ง
"แสน" หมายถึงจำนวนและขนาดน้ำหนักทองขององค์พระพุทธรูป
กล่าวโดยรวม คือ
"พระพุทธรูปหล่อที่ต่อหลายชิ้น สิ้นจำนวนทองหนักจำนวน"แสน"
“พระเจ้าออกเหงื่อ” หรือ “พระเจ้าแสนแซ (แส้)” องค์นี้
จากการตรวจสอบแล้ว เห็นว่า
เป็นพระพุทธรูปสำริด
ประทับนั่งขัดสมาธิราบบนฐานหลี่ยมไม่มีฐานชั้นบัว
ปางมารวิชัย นิ้วพระหัตถ์เสมอกัน
วงพระพักตร์ค่อนข้างยาว
เม็ดพระศกเล็กเป็นแบบหนามขนุน มีไรพระศก รัศมีเป็นเปลว
ชายสังฆาฏิปลายเกือบเป็นเขี้ยวตะขาบ
ยาวจรดพระนาภี ชายจีวรมีลวดลาย
ความพิเศษและแตกต่างไปจากพระพุทธรูปโดยทั่วไป คือ
ชั้นพระเมาลี มีส่วนที่เหมือนสร้างเพิ่มเติมขึ้นมาซ้อนอีก ๑ ชั้น
สรุป โดยภาพรวมของพระพุทธรูป
“พระเจ้าออกเหงื่อ” หรือ “พระเจ้าแสนแซ (แส้)” องค์นี้
เป็นพระพุทธรูปแบบพื้นเมือง
ที่ได้รับอิทธิพลศิลปะจากทางภาคกลาง (อยุธยา)
และมีอายุไม่เก่าเกินกว่า พุทธศตวรรษที่ ๒๒ ขึ้นไป
รวมทั้งได้ผ่านการซ่อมแปลงมาแล้วครั้งหนึ่ง
โดยเฉพาะส่วนที่เป็นพระเมาลี.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น