ตามรอยสุนทรภู่ไปสุพรรณฯ
เหตุแห่งชื่อ "คลองบางหลวง" แขวงนครชัยศรี
๗๖๏ ถึงคลองร้องเรียกบ้าน บางหลวง
ลำฦกนึกถึงดวง ดอกฟ้า
เงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวทรวง แสนทเวท ทุเรดเอย
อู้มรักหนักอกถ้า เทียบเถ้าเขาหลวง ฯ
คลองบางหลวง ตั้งอยู่ที่ตำบลบางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เป็น ชื่อของแคว หรือคลองใหญ่
ที่ต้นน้ำอยู่ที่บ้านลาดหลวง บ้านรางทอง
เป็นสองสาขามารวมกันไหลลงสู่แม่น้ำนครชัยศรี(ท่าจีน)
ทำให้บริเวณนี้เกิดเป็นชุมทางที่มีชุมชนขึ้น
แต่ในช่วงที่สุนทรภู่นั่งเรือผ่าน ยังมีบ้านเรือนไม่มากนัก
เพิ่งจะมาเป็นชุมชนใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่ ๕
ประมาณ ปี พ.ศ.๒๔๔๖ ( ร.ศ.๑๒๒)
ได้มีกลุ่มชาวจีนแต้จิ๋ว จีนฮกเกี้ยน
หนีสงครามเข้ามาตั้งรกราก สมทบกับชาวจีนที่เข้ามาก่อนหน้านั้น
และทำอาชีพค้าขายหลากหลายรูปแบบ โดยแบ่งตามอาชีพ
เป็นจีนสามกลุ่ม
กลุ่มแรกคือเจ็กตลาด เป็นคนจีนที่ทำอาชีพค้าขายในตลาด
กลุ่มสองคือเจ๊กไร่ เป็นคนจีนที่ทำการเกษตร
ส่วนกลุ่มสามคือ เจ๊กโรงหมู เป็นคนจีนที่เลี้ยงหมูและฆ่าหมูเป็นอาชีพ
และนำสินค้าตามอาชีพ มาสู่ตลาดที่ปากน้ำคลองบางใหญ่
จนขยายเป็นตลาดการค้าขายและเส้นทางคมนาคม ที่ใหญ่ขึ้น
เป็นชุมชนหนึ่งที่มีทั้งผู้คนและสินค้ามากมาย
ขึ้นลงท่าเรือไม่เคยขาด
จนกลายเป็นแหล่งค้าขายทางน้ำที่สำคัญ แห่งหนึ่งของอำเภอบางเลน
ภายในชุมชนยังมีศาลเจ้าแม่ทับทิมเก่าแก่
ตั้งอยู่ด้านในสุดของตลาด โดยอยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน
ไว้สำหรับเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของชาวตลาด
และเป็นที่เคารพของผู้คนที่อยู่ในชุมชนชาวไทยจีนแห่งนี้
รวมทั้งชาวเรือที่สัญจรไปมาด้วย
นอกจากนี้ยังมี “วัดบางหลวง” สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙
( ปีที่ ๗ ในรัชกาลที่ ๖ )
ที่ประชาชนชาวบ้านบางหลวง ร่วมกันก่อสร้าง
เป็นวัดขึ้นมาพร้อมกับแหล่งชุมชนบ้านบางหลวง แห่งนี้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น