๕.๏ เลี้ยวลัดวัดษเกษก้ม คมลา
กุฏศพนบมานดา เกิดเกล้า
เดชะพระกุศลภา พ้นโลก โอกฆเอย
เสวยศุกทุกค่ำเช้า ช่องชั้นสวรรยางค ฯ
ที่ปากคลองมหานาค แต่เดิมมีวัดสมัยกรุงศรีอยุธยา ชื่อ วัดสะแก
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม
แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ
ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา
เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน
เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี
และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. ๒๓๒๕
ต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระราชประสงค์จะสร้างพระเจดีย์ใหญ่
ให้เหมือนวัดภูเขาทองที่กรุงศรีอยุธยา
จึงโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมมหาพิชัยญาติ (ทัต บุนนาค)
ครั้งยังเป็น พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา เป็นแม่กองสร้าง
บูรณะและสร้างพระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง
ทรงกำหนดให้เป็น "พระปรางค์" มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง
แต่บริเวณนั้นเป็นที่ลุ่มดินอ่อน
ทานน้ำหนักพระเจดีย์ไม่ไหว จึงทรุดพังลงมา
ต้องหยุดการก่อสร้างไว้ ชาวบ้านเรียกกันว่า "ภูเขาทอง"
๑๔. อีกองมงกุฎเกล้า เชากรุง
สืบกษัตรขัติยบำรุง รอบแคว้น
ถวายพระอนิสงพดุง พเดชเฟื่อง กเดื่องเอย
สิ่งโศกโรคเรื่องแค้น ขจัดผ้ายวายเขนฯ
ในช่วงเวลาที่สุนทรภูผ่านวัดสระเกศ นั้น
รัชกาลที่ ๔ เพิ่งขึ้นครองราชย์
เจดีย์ภูเขาทองยังพังทิ้งค้างเป็นป่า อยู่
จึงยังไม่มีภูเขาทองเป็นเจดีย์ทรงลังกา ดังที่เห็นในปัจจุบัน
เพราะสุนทรภู่ ถึงแก่กรรม ใน ปี พ.ศ.๒๓๙๘ ( ปีที่ ๕ ในรัชกาลที่ ๔)
ส่วนเจดีย์ทรงลังกาที่สร้างใหม่ รัชกาลที่ ๔
ทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อเดือน ๖ ปีฉลู พ.ศ. ๒๔๐๘
( ปีที่๑๕ ในรัชกาลที่ ๔ )
ภูเขาทอง วัดสระเกศ เมื่อแรกสร้าง สมัยรัชกาลที่ ๓
ภูเขาทอง วัดสระเกศ เมื่อ ปลายรัชกาลที่ ๓ - ต้นรัชกาลที่ ๔
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้โปรดเกล้าฯ ให้พระยา ศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) บุตรของสมเด็จพระบรมมหาพิชัยญาติ เป็นแม่กองสร้างพระเจดีย์ที่ค้างอยู่และโปรดฯ ให้พระยาราชสงครามเป็นนายช่าง โดยก่อเป็นรูปภูเขาบนยอดเขาเป็นเจดีย์ทรงลังกา วัดสระเกศ
โดยเสด็จไปทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อเดือน ๖ ปีฉลู พ.ศ. ๒๔๐๘ ( ปีที่๑๕ ในรัชกาลที่ ๔ ) และโปรดให้ เปลี่ยนนามพระเจดีย์ภูเขาทองใหม่ว่า "บรมบรรพต"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น